นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงสถานะรัฐบาลก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดี 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ในช่วงปลายเดือนนี้ว่าจากรัฐบาลยุค 3 ป. อาจจะกลายเป็นยุค 3 ต.คือ “ตู่-ตีบ-ตัน” เพราะต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปต่อก็คงจะตีบตันทุกด้าน คงไม่มีพรรคไหนอยากเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกเนื่องจากคะแนนนิยมตกต่ำ กระแสต่อต้านจากคนที่เห็นว่าอยู่เกิน 8 ปีจะมาจากทั่วทุกสารทิศ สู้ไปตามวาระ 8 ปี ยังจะดูมีสง่าราศรีมากกว่า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน แต่ควรชิงประกาศยุติบทบาทไปก่อน

“แม้บิ๊กตู่จะได้ไปต่ออีก 2 ปีอย่างที่เขาคาดการณ์กัน แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าพอถึงวันเลือกตั้ง ทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯเพราะเห็นพรรคหนึ่งประกาศตัดขาดเพราะไม่ใช่พรรคอะไหล่ของใคร ส่วนอีกพรรคก็มีบิ๊กป้อมนั่งเป็นหัวหน้าอยู่จะยอมให้บิ๊กตู่เป็นแคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1 ได้อย่างไร ที่สำคัญดูจากการทำหน้าที่รักษาการนายกฯแล้วบิ๊กป้อมคงไม่อยากให้บิ๊กตู่กลับมาอีกแน่เพราะการไม่มีบิ๊กตู่ทำให้บิ๊กป้อมเกิดใจบันดาลแรงขยันขันแข็งผิดปกติ แต่ถ้าบิ๊กตู่ได้กลับมาบิ๊กป้อมก็คงกลับไปอยู่ในสภาพจิตใจห่อเหี่ยวเหมือนเดิม ใจคอน้องเล็กจะทำร้ายจิตใจพี่ใหญ่ได้ลงคอหรือ” นภาพร กล่าว

นภาพร กล่าวต่อว่า สถานการณ์พรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ดูเหมือนว่าจะอยู่ในช่วงการเอาตัวรอดตัวใครตัวมันเพราะรู้อยู่แล้วว่าถึงอย่างไรรัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ไม่ครบเทอม ชื่อเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ก็ขายไม่ได้เหมือนเดิม สู้รีบชิงถอนตัวออกมาก่อนการยุบสภาเพื่อจะได้เอาไปเป็นข้ออ้างในการหาเสียงว่าอยู่คนละฝ่ายกับบิ๊กตู่แล้วไม่ดีกว่าหรือ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยที่ขัดแย้งกันเรื่องนโยบายกัญชาหรือ กยศ.แต่ดูเหมือนว่ากำลังหาเหตุไปสู่การถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่าการขัดแย้งทางการเมืองธรรมดาเพียงแต่ไม่รู้ว่าพรรคไหนจะชิงถอนตัวก่อนกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากนี้ไปพรรคร่วมรัฐบาลคงจะชิ่งหนีเอาตัวรอดเพราะคงไม่มีใครยอมกอดคอจมน้ำตายไปพร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์แน่