‘อิรีนา’ ได้ยินเสียง ‘ยูรี’ ลูกชายวัย 23 ปี ครั้งสุดท้ายช่วงต้นเดือนมีนาคม
สี่ปีแล้วที่ยูรีปฏิบัติหน้าที่ในกองพันอาซอฟ ชายหนุ่มวัย 23 ปี ประจำการอยู่ที่เมืองมารีอูปอล เมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน มารีอูปอลไม่ได้สำคัญเฉพาะด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพยูเครน
15 มีนาคม กองทัพรัสเซียล้อมเมืองมารีอูปอลได้สำเร็จ ตัดเสบียงอาหารและกองกำลังทหารยูเครน
12 เมษายน กองทัพรัสเซียเข้ายึดพื้นที่ตรงกลางระหว่างสองกองทหารของยูเครนได้สำเร็จ ตัดกำลังด้วยการแบ่งแยกกองกำลังของยูเครนออกจากัน
16 เมษายน กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเรียกร้องให้ทหารยูเครนในมารีอูปอลยอมมอบตัวภายในเวลาที่กำหนด และเตือนทุกคนที่ขัดขืนว่า “จะถูกกำจัด” หลังเส้นตาย
17 เมษายน แม้จะมีจำนวนน้อยกว่า ขาดแคลนน้ำดื่ม อาหาร และยารักษาโรคเพราะถูกปิดล้อมนานหลายสัปดาห์ ทหารยูเครนในมารีอูปอลไม่ยอมมอบตัว ยืนยันจะสู้จนนาทีสุดท้าย
(สภาพมารีอูปอลหลังถูกถล่อมและปิดล้อมโดยรัสเซีย, AFP)
“พวกเขาพยายามคิดถึงครอบครัว พวกเขาคุยกันทุกวันถึงความรักที่เขามีต่อครับครัวและประเทศชาติ นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาสู้ต่อไปได้ พวกเขาเชื่อมั่นว่าจะได้รับชัยชนะ ไม่ว่าผู้เชี่ยวชาญจะวิเคราะห์อย่างไรก็ตาม”
อิรีนาบอกกับเราผ่านทางวิดีโอคอล ทุกวันนี้เธอใช้วิธีส่งข้อความติดต่อกับยูรีลูกชาย
“พลเรือนที่ยังติดอยุ่ในมารีอูปอล ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิง และคนชรา พวกเขาต้องได้รับการช่วยชีวิต ในฐานะที่ฉันเป็นแม่ของทหารที่กำลังต่อสู้อยู่ด่านหน้า ฉันอยากให้นานาชาติให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อช่วยชีวิตคนบริสุทธิ์ในมารีอูปอล ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และช่วยเรื่องการขนย้ายร่างของผู้เสียชีวิต”
สิ่งที่อิรีนาเรียกร้องต่อโลกเป็นใจความเดียวกันกับข้อความที่ เซอร์ฮี โวลีนา ผู้บัญชาการกองพลของยูเครนในมารีอูปอลส่งผ่านมายังนานาชาติ
“ในบังเกอร์ทหารของเรา มีผู้หญิงที่ซ่อนตัวอยู่กับเด็ก รวมทั้งเด็กทารก ส่วนใหญ่เป็นญาติของทหารในกองทัพของเราซึ่งรัสเซียต้องการจับเป็นตัวประกัน เราไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร คนของเราที่บาดเจ็บต้องตายอย่างทรมานทุกวัน เพราะยาต่างๆ หมดไปนานแล้ว เราขอความช่วยเหลือจากชาวโลกในการอพยพผู้บาดเจ็บ เด็ก ผู้หญิง และร่างคนตาย นานาชาติยังพยายามไม่มากพอในเรื่องนี้ เราขอเรียกร้องให้นักการเมืองในโลก บุคคลสาธารณะ และผู้นำศาสนา อย่าเพิกเฉยต่อพลเรือนในมารีอูปอล”
(ภาพรัสเซียถล่มระเบิดใส่พื้นที่บริเวณโรงงานเหล็กกล้าอาซอฟสตัล ที่มั่นสำคัญของทหารยูเครนที่มีพลเรือนหลบภัยอยู่ใต้ดินด้วย, Reuters)
นอกจากต้องสู้รบกับกองกำลังของรัสเซียที่มีอาวุธร้ายแรง ทั้งระเบิด จรวด รวมทั้งมีการรายงานการใช้อาวุธเคมี ทหารยูเครนยังต้องดูแลและปกป้องพลเรือนนับพันคน อิรีนาบอกว่าการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำคัญต่อมารีอูปอล เพราะทุกวันนี้ทหารรัสเซียไม่ยอมแม้แต่จะให้โอกาสชาวยูเครนได้จัดการศพของผู้เสียชีวิต
ไม่มีใครอยากเห็นมารีอูปอลซ้ำรอยสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองบูชาที่มีรายงานการสังหารพลเรือนบริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมโดยทหารรัสเซีย
เมื่อถูกถามว่า ‘เตรียมใจไว้หรือยัง’ หากกองกำลังยูเครนเพลี่ยงพล้ำ และยูรี ลูกชาย อาจะถูกจับโดยทหารรัสเซีย เพราะหลายคนทราบดีว่ากองพันอาซอฟกับรัสเซียนั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นศัตรูกันมาก่อนที่จะเกิดการรุกรานยูเครนในครั้งนี้
อิรีนานิ่งไปสักพัก ก่อนจะตอบพวกเรากลับมาว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นใครในยูเครน เราล้วนถูกปฏิบัติจากทหารรัสเซียอย่างเท่าเทียมกันทั้งหมด นั่นก็คือการถูกปฏิบัติด้วยวิธีการที่เลวร้ายอย่างยิ่ง”
การยึดมารีอูปอลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรัสเซีย เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ระหว่างไครเมีย ซึ่งรัสเซียเข้ายึดครองในปี 2014 และพื้นที่ของภูมิภาคดอนบาสในยูเครนตะวันออกซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย
(ทหารรัสเซียตรวจการณ์ที่โรงละครในอารีอูปอลซึ่งถูกทิ้งระเบิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม, AFP)
หากรัสเซียยึดมารีอูปอลได้ ปูตินอาจอ้างความสำเร็จของ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” เหนือยูเครนตะวันออก มีการวิเคราะห์ว่า สมรภูมิรบในมารีอูปอลเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของสงครามในอีกระลอกที่รัสเซียกำลังรุกรานยูเครน และคาดการณ์ว่า รัสเซียจะใช้วิธีการที่โหดร้ายและรุนแรงมากกว่าเดิม
อิรีนาเล่าว่า ขณะนี้กองทัพรัสเซียกำลังโจมตีกองกำลังทหารยูเครนอย่างหนักบริเวณฐานที่มั่นโรงงานเหล็กกล้า เธอเล่าว่าระเบิดที่ทหารรัสเซียใช้ ไม่ให้โอกาสพลเรือนได้มีโอกาสรอดชีวิตเสียด้วยซ้ำ
ด้านสถานทูตยูเครนประจำประเทศไทยกล่าวว่า สิ่งที่รัสเซียทำคืออาชญากรรมสงคราม และทางยูเครนกำลังรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ไทยและโลกช่วยเหลือพลเมืองยูเครนด้านมนุษยธรรมเท่าที่ทำได้ แม้แต่การพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน ให้กำลังใจ และแชร์ข่าวสาร ก็เป็นการช่วยเหลือทางจิตใจที่มีความหมายอย่างมากต่อชาวยูเครน
(โอเล็กซานเดอร์ ลีสัก, เจ้าหน้าที่ด้านการต่างประเทศ สถานทูตยูเครนประจำประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลและประชาชนไทยช่วยเหลือยูเครนเท่าที่พอจะทำได้)
“เราจะไม่ยอมแพ้ และจะสู้ให้ถึงที่สุด แต่ความภักดีต่อคำสาบานของเรานั้นไม่เพียงพอที่จะปลดปล่อยมารีอูปอล …เราพร้อมสู้จนเลือดหยดสุดท้าย แต่เราต้องรู้ว่าโลกจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเรา หากเป็นเช่นนั้น เราก็พร้อมที่จะทำแม้กระทั่งสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับประเทศของเรา”
ข้อความทิ้งท้ายของ เซอร์ฮี โวลีนา ผู้บัญชาการกองพลของยูเครนในมารีอูปอล ที่ส่งผ่านมาถึงทุกคนนอกมารีอูปอล
ที่มา:
https://twitter.com/Mykhailova_A/status/1516063383602307075
https://www.nytimes.com/interactive/2022/world/europe/ukraine-maps.html
https://www.bbc.com/news/world-europe-60825226