ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 105 ประกอบมาตรา 102 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่างภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ตำแหน่งว่างลง
เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดย กกต.ได้กำหนดวันเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 ในวันอาทิตย์ ที่ 10 ก.ค. 2565 เวลา 08.00-17.00 น.
ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 ครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) ส.ส.เขต 4 จ.ลำปาง ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอ เนื่องจากเห็นว่า วัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง พรรคพลังประชารัฐในขณะนั้นได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม
ทำให้ กกต.แจกใบเหลือง แต่ 'วัฒนา' ไม่ได้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง ทำให้มีโอกาสล้างตาในศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งที่สอง
แม้การหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ค่อนข้างเงียบเหงา เพราะมีผู้สมัคร ส.ส.ที่จัดว่าเป็นคู่ชิงตัวเต็งแค่ 2 คนคือ วัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครหมายเลข 3 อดีต ส.ส.ลำปาง พรรคเศรษฐกิจไทย และเดชทวี ศรีวิชัย ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 1 จากพรรคเสรีรวมไทย แม้จะมี พลพงศ์ พงษ์สุพัฒน์ พรรคพลังสังคมใหม่ ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 2 อีกคนก็ตาม
แต่การช่วงชิงครั้งนี้เป็นการต่อสู้กันของตัวแทนพรรคฝ่ายค้านอย่าง 'เสรีรวมไทย' และ ตัวแทนฝั่งรัฐบาลที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จาก 'พรรคเศรษฐกิจไทย'
หากย้อนไปเมื่อการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิ.ย. 2563 ครั้งนั้น พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งส.ส.ด้วยเหตุเจ้าของพื้นที่อย่าง'พินิจ จันทรสุรินทร์' ซึ่งพรรคเพื่อไทยวางตัวส่งชิงรักษาฐานเสียงเดิมของ 'อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์' บุตรชายของ 'พินิจ' ที่เสียชีวิตอย่างกะทันหัน โดย 'พินิจ' กลับลำไม่ขอลงสมัคร ส.ส.ก่อนวันรับสมัคร
ทำให้ศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนั้น เป็นการต่อสู้ช่วงชิงกันระหว่างระหว่าง 'วัฒนา สิทธิวัง' ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายใต้การนำทัพของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ขณะนั้นยังเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ จากภาคเหนือ
ส่วนพรรคเสรีรวมไทยส่งผู้สมัคร ส.ส. คือ 'ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ' ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคเสรีรวมไทย ภายใต้การนำของ 'พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส' หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
ผลการเลือกตั้งซ่อมหนนั้นเป็นไปตามคาดหมาย 'วัฒนา' คว้าชัย ส.ส.ลำปาง ด้วยคะแนนที่ประชาชนเทให้ 61,821 คะแนน (ทั้งที่การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 วัฒนาได้ 30,368 คะแนน) หรือได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้น 31,453 คะแนน
ส่วนผู้พ่ายแพ้อันดับ 2 ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ พรรคเสรีรวมไทย หมายเลข 2 ได้ 37,781 คะแนน (2,466 คะแนน : 24 มี.ค. 62) ซึ่งได้เสียงเพิ่มขึ้น 35,315 คะแนน
การเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 ก.ค.นี้ จึงเป็นการช่วงชิงกันอีกครั้งของ พรรคเศรษฐกิจไทย ที่ประเดิมส่งผู้สมัคร ส.ส.เป็นครั้งแรก โดยส่ง 'วัฒนา' ตัวแทนพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไท
ส่วน 'พรรคเสรีรวมไทย' ส่ง 'เดชทวี ศรีวิชัย' ลงแก้มืออีกครั้ง แม้ครั้งก่อนพรรคเสรีรวมไทยจะกวาดคะแนนมาได้ 37,781 คะแนน แต่กระแสยังคงเป็นรองพรรคเศรษฐกิจไทย หากวัดจากฐานเสียงในครั้งก่อน
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส เคยประกาศเมื่อวันที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง นับเป็นก้าวแรกสำคัญ และแชมป์เก่าเป็นของเราคือ วัฒนา สิทธิวัง ซึ่งถูกใบเหลืองไป พรรคจะแก้ตัวใหม่
"ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้ทำเพื่อพี่น้อง จ.ลำปางมาตลอด และเชื่อว่าภายใต้การนำพรรคเศรษฐกิจไทยของตนจะสามารถชนะใจชาวลำปางได้" ร.อ.ธรรมนัส ระบุ
ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้นำทัพพรรคเสรีรวมไทยลงหาเสียงเลือกตั้งซ่อม เป็นระยะโดยช่วยหาเสียงให้กับ 'เดชทวี' โดยย้ำกับประชาชนว่าอย่าเลือกผู้แทนที่ซื้อเสียงเข้ามา เพราะหากเข้ามาได้ก็จะไปยกมือหนุนเผด็จการ สนับสนุนการแจกกล้วยทำลายประชาธิปไตย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันกับชาวบ้านด้วยว่า หากผู้สมัครของพรรคได้รับเลือกตั้ง จะเป็นอีก 1 เสียงที่จะโหวตคว่ำ พล.ประยุทธ์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้ด้วย
สมรภูมิศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 จึงเป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคการเมืองสองขั้ว แต่มีทิศทางเดียวกันคือ เป็นพรรคที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ต่างกันตรงเพียงว่า 'พรรคเศรษฐกิจไทย' ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยังคงสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ไม่ว่า 'พรรคเสรีรวมไทย' หรือ 'พรรคเศรษฐกิจไทย' ฝั่งใดจะได้ ส.ส.เพิ่ม 1 ที่นั่ง ก็ล้วนมีผลต่อการโหวตชี้ขาดในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รวม 11 รายในเดือน ก.ค.นี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง