เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2565 เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) พร้อมด้วยนายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ) และเครือข่ายภาคประชาชน แถลงคัดค้านกรณีรัฐบาลมีมติให้ต่างชาติมาลงทุนและครอบครองที่ดินในประเทศได้ หากมีเงินมาลงทุนมากกว่า 40 ล้านบาท โดยขอให้รัฐบาลยุตินโยบายนี้
"นโยบายนี้ถือเป็นนโยบายขายชาติขายแผ่นดินอย่างแท้จริง มีคำกล่าวด้วยว่า ถ้าแค่ขายชาติยังมีแผ่นดินอยู่ แต่ถ้าขายแผ่นดินจะไม่มีชาติเหลืออยู่เลย" เมธากล่าว
เลขาธิการครป. กล่าวว่า แม้จะมีการกำหนดเวลาของประกาศฉบับนี้แค่ 5 ปีแต่ก็เพียงพอแล้วที่จะให้เมืองไทยไร้แผ่นดิน เพราะบุคคล 4 กลุ่มที่รัฐบาลอนุญาต มีนายทุนกลุ่มต่างๆ ที่มีศักยภาพทั้งนายทุนกลุ่มสีดำ สีเทา หรือสีขาวก็ตาม ต่างก็สามารถเข้ามาช้อนซื้อที่ดินได้จำนวนมาก ขณะที่คนจนในประเทศไทยจำนวนมากไม่มีที่ดินทำกิน ชาวนาในชนบทต้องเช่าที่ทำกิน ทั้งนี้ ประเทศไทยมีที่ดิน 320 ล้านไร่ เป็นป่าไม้ 80 ล้านไร่ เหลือที่ดิน 240 ล้านไร่เฉลี่ยให้คนไทย 60 กว่าล้านคน จะได้แค่คนละ 4 ไร่เท่านั้น แต่ท่ามกลางความเหลื่อมล้ำนายทุนมีที่ดินกันคนละเป็นแสนไร่ คนจนจำนวนมากไม่มีที่ดินทำกิน แล้วรัฐบาลยังจะออกประกาศให้กลุ่มทุนต่างชาติถือครองได้อีก ทำให้ประเทศไทยไม่มีอนาคต
เมธากล่าวอีกว่า รัฐบาลตั้งเป้าอย่างตลกร้ายว่าภายในเวลา 5 ปีจะมีต่างชาติซื้อที่ดิน 1 ล้านคน หรือ 1 ล้านไร่ แล้วคนไทยจะไปอยู่ที่ไหน
"อาจกล่าวได้ว่านักการเมืองในยุคพล.อ.ประยุทธ์ ไร้ยางอาย โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ ที่เป็น 3 ป.ที่คุมอำนาจแล้วออกนโยบายแบบนี้"
เลขาธิการ ครป. กล่าวว่า ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการสอดไส้นโยบายขายแผ่นดินมากกว่ามติ ครม.ดังกล่าว นั่นคือ ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 6/2565 เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้นิติบุคคลต่างด้าวที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนถือกรรมสิทธิ์ที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัย ลงนามในเดือนสิงหาคมโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน BOI ในรายละเอียดนั้นน่ากลัวเพราะอนุญาตให้นิติบุคคลต่างด้าว เพียงมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทขึ้นไปก็สามารถถือครองที่ดินเป็นการถาวรในประเทศไทยได้ 35 ไร่ ในจำนวนนี้ให้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้บริหาร 10 ไร่ เป็นที่ดินสำหรับพนักงาน 30 ไร่ เป็นที่ดินสำหรับจัดตั้งสำนักงานได้ 5 ไร่ โดยที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ดินสำนักงานไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกัน หมายความว่าสามารถครอบครองที่ดิน 35 ไร่ได้ทั่วประเทศ โรงงานอาจอยู่ชลบุรี ที่พักผู้บริหารอาจอยู่เชียงใหม่ ถือเป็นนโยบายเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติอย่างใหญ่หลวง
เลขาธิการ ครป.กล่าวว่า ครป.เคยยื่นหนังสือของให้ BOI เปิดเผยการถือครองที่ดินของต่างชาติตามประกาศ BOI ว่ามีเท่าไร แต่ยังไม่ได้คำตอบ คาดการณ์ว่าอาจจะมีนับแสนไร่ก็เป็นได้ในปัจจุบัน และอยากเรียกร้องให้ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังว่า ใครบ้างในรัฐบาลที่ได้ผลประโยชน์อย่างแท้จริง และมีการเก็งกำไรที่ดินในภาคตะวันออกเพื่อขายให้ต่างชาติในรูปแบบส่งเสริมการลงทุน BOI ด้วย