นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุโพดุล ที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคใต้ ทะเลมีคลื่นสูง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 29 ส.ค. – 1 ก.ย. 2562 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งการให้ทุกจังหวัดลงพื้นที่เตือนเกษตรกร เฝ้าระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงและได้รับผลกระทบสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของพื้นที่การเกษตรหลังน้ำลดทันที พร้อมแนะนำให้เกษตรกรดูแล ข้าว พืชไร่ไม้ผล เพราะช่วงนี้ บางพื้นที่เป็นช่วงที่บางพืชเก็บเกี่ยว ทำให้ต้องเตรียมช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมกำชับทั้งให้ทุกจังหวัด รายงานผลสำรวจให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบทุกวัน
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมการให้ผลิตชีวภัณฑ์ เช่น ไตรโคเดอร์มา เพื่อเตรียมแจกจ่ายช่วยเหลือเกษตรกรหลังน้ำลดทันที หลังน้ำลดสารชีวภัณฑ์จะสามารถช่วยลดผลกระทบจากโรคพืชที่มากับน้ำได้
ด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ กรมส่งเสริมการเกษตรยึดหลักปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 โดยมีหลักเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย ตามจำนวนพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหาย รายละไม่เกิน 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่น ๆ อัตรา ไร่ละ 1,690 บาท ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และผู้ว่าราชการจังหวัดจะประกาศเขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือฯ เกษตรกรต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ผู้นำท้องถิ่นรับรอง ก่อนจะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกร และพื้นที่เสียหายจริง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป
พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่เกษตรกรลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 44 จังหวัด ที่อาจจะได้รับผลกระทบ โดยเกษตรกรสามารถขอความช่วยเหลือและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ กรมส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ได้ ณ สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง