พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็น ประธานในพิธีเปิดการประชุมสมัชชา "BCG : โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาอย่างอื่น" โดยมีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มีผู้ร่วมการประชุม ร่วม 1,000 คน ทั้งภาครัฐ และเอกชน และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งถือเป็นการออกงานครั้งแรกหลังผ่านสถานการณ์โควิด-19

พล.อ.ประยุทธ์ ปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ไทยมีทรัพยากร เป็นแหล่งอาหาร สยามเมืองยิ้ม แต่วันนี้มีปัญหาอื่นเข้ามาแทรกซ้อนแถมด้วยโควิด-19 เข้ามาอีก ทำให้ในบางจังหวัดรายได้แทบไม่มี วันนี้จะต้องทำงานในลักษณะองค์รวมในแบบ New Normal หลายกระทรวง ต้องการเม็ดเงินไปบริหาร แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 พังกันทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย รวมถึงประเทศในอาเซียนมีปัญหา เช่น ทุกคนต้องรักษาวินัย เอาใจใส่เห็นใจใส่ต้องทำงาน เห็นใจเจ้าหน้าที่ทำงานตั้งแต่ ม.ค. อย่าคอยว่าเมื่อไหร่เจ้าหน้าที่ต้องมาจับ มาห้าม ทำให้ภาระเจ้าหน้าที่เพิ่มมากขึ้น แทนที่จะได้ทำงานตรงหน้าที่ ประชาชนจะต้องไม่เป็นฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว ต้องเป็นฝ่ายให้คือต้องให้ความร่วมมือ ลดปัญหา ลดภาระ ให้กับเจ้าหน้าที่ ลดการบังคับใช้กฎหมาย ทุกคนไม่ชอบกฎหมาย

"กฎหมายทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ทำผิดก็ต้องผิดเหมือนกัน เป็นสิ่งที่ยืนยันมาโดยตลอด บางคนก็ไม่ใส่หน้ากาก หรือจะให้ใช้เหมือนประเทศอินเดีย ทั้งปรับ เฆี่ยน ตี คัดลายมือ ถึงจะปล่อยตัว เดี๋ยวก็หาว่าใช้อำนาจ ดังนั้นขอให้ทุกคนเคารพกฎส่วนรวม เราต้องอาศัยความรับผิดชอบร่วมกัน มีจิตสำนึก ที่เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะใช้กฎหมายก็ไม่รู้จะทำให้แรงกว่านี้อย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วงนี้เหนื่อยทุกวันเลย เมื่อวานก็เครื่องบินชน อยู่ดีๆ สายการบินทหารอียิปต์ชน ก็กำลังแก้ไขอยู่ไม่ต้องกังวล มันแก้ได้ ขอให้เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของเรา มันเป็นเรื่องของคนบางคนเท่านั้นเอง ระเบียบก็มีไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ คำว่าสิทธิคืออนุญาตให้เข้าแต่ต้องมีกติกา ไม่ใช่สิทธิพิเศษว่าไม่ต้องตรวจไม่ต้องทำอะไร แต่ตรวจแล้ว แต่ดันหนีออกไปเที่ยวก็เป็นอีกเรื่อง ต่อไปนี้ทั้งหมดต้องเข้มงวดทั้งคนไทยและต่างประเทศ รวมถึงพวกที่เต้นในผับในบาร์ก็ขอให้ระวังแล้วกัน ไม่เห็นกลัวกันเลย หัวจะชนกันอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ทุกคนต้องพัฒนาตัวเอง และทบทวนว่าที่ผ่านมารายได้ถึงน้อย เงินเดือนไม่พอ กินเหล้ามากน้อยแค่ไหน หรือซื้อหวยมากหรือเปล่า พร้อมติงสื่อชอบออกข่าวทะเบียนรถนายกฯ ว่านั่งเบอร์อะไร ซึ่งไม่ใช่เรื่อง โดยตนก็นั่งรถเบอร์เดิม พอถูกก็เฮ ไม่ถูกก็ด่านายกฯ ก็แปลกดีเหมือนกัน ทั้งนี้ตนก็เห็นใจ เพราะเขาก็ยากจน จึงมีความหวังแค่นี้ เพราะมันคือความสุขของคนจน ยืนยันว่าไม่ได้ว่าใคร เพราะเดี๋ยวหาว่าดูถูกคนจน เพราะตนนั้น รักคนจนที่สุด