ไม่พบผลการค้นหา
แคน นายิกา ศรีเนียน ศิลปินหญิงเดี่ยว อดีตสมาชิกวง BNK48 ร่วมเสวนาหัวข้อ “ทำไมต้องเรียน รู้ที่จะเรียน” เผยมุมมองการเรียนรู้ เปรียบโซเชียลมีเดีย เป็นเหมือนเพื่อนสนิทในการค้นคว้าหาข้อมูล

เสวนาหัวข้อ “ทำไมต้องเรียน รู้ที่จะเรียน” ที่อุทยานการเรียนรู้ TK park จัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 14 ปี โดยมี แคน-นายิกา ศรีเนียน ศิลปินหญิงเดี่ยว อดีตสมาชิกวง BNK48, ริบบิ้น-นิชาภา นิศาบดี เยาวชนในโครงการ TK แจ้งเกิด นักดนตรี พิธีกรและครีเอทีฟ และ 'หนุ่มเมืองจันท์' สรกล อดุลยานนท์ นักเขียนและคอลัมนิสต์ชื่อดัง ร่วมเสวนา และให้แง่คิด มุมมองเกี่ยวกับการเรียนรู้

แคน นายิกา

แคน - นายิกา ศรีเนียน ศิลปินหญิงเดี่ยว อดีตสมาชิกวง BNK48 กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย เป็นเหมือนเพื่อนสนิทของเธอเลย เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตและการเรียนรู้แทบจะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นในห้องเรียน หากเราไม่เข้าใจบทเรียนตรงไหนที่อาจารย์สอน ก็สามารถเปิดยูทูบค้นหาหัวข้อเรื่องเดิม เพื่อที่จะเรียนซ้ำอีกครั้งให้เข้าใจในจุดที่ยังไม่เข้าใจได้ แม้แต่เรื่องดนตรี ภาพยนตร์ อินเทอร์เน็ต ถือว่าเป็นช่องทางสำหรับคนที่มีไอเดียใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา แล้วก็สามารถโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับคนรุ่นใหม่ๆ พอได้เห็นก็อยากทำตามบ้าง ถือเป็นการเรียนรู้ผ่านสื่อใหม่ใกล้ตัวสำหรับคนรุ่นใหม่

นิชาภา นิศาบดี

ริบบิ้น - นิชาภา นิศาบดี เยาวชนในโครงการ TK แจ้งเกิด นักดนตรี พิธีกรและครีเอทีฟ กล่าวว่า ตนพูดได้เลยว่า TK park ช่วยเสริมความฝันของตนเองได้จริงๆ ซึ่งเริ่มต้นจากความสนใจด้านดนตรี ซึ่ง TK park ได้มอบโอกาสให้ตน ไม่ใช่แค่เรื่องดนตรีเท่านั้น ที่นี่ยังมีอะไรอีกมากมาย มีห้องสมุดให้เรายืมหนังสือ มีภาพยนตร์ให้เรายืมมาศึกษา มีสารคดีให้เราเรียนรู้ จากที่เราเล่นอูคูเลเล่เป็นงานอดิเรก พี่ๆก็ชวนมาสอนอูคูเลเล่ให้คนอื่นบ้าง จนเป็นแรงบันดาลใจอยากเล่นดนตรีต่อไป เมื่อมาทำงานด้านทีวีตามที่เรียนมา ได้เดินทางไปทำรายการสารคดี ที่ประเทศญี่ปุ่นบ้าง และนี่ก็เป็นก้าวแรกที่ริบบิ้นได้นำประสบการณ์ที่ได้รับจาก TK park  ที่ไม่เคยปิดกั้นตนจากการเรียนรู้ มาผลักดันให้เรากล้าออกไปเผชิญโลกกว้างและส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นต่อไป

สรกล อดุลยานนท์

ขณะที่ 'หนุ่มเมืองจันท์' หรือ สรกล อดุลยานนท์ นักเขียนและคอลัมนิสต์ชื่อดัง ให้มุมมองว่า ความรู้ในโลกนี้มีอยู่สองอย่าง รู้ว่ารู้อะไร กับ รู้ว่าไม่รู้อะไร ถ้ารู้ว่าเราไม่รู้อะไร มันมีอะไรที่เราไม่รู้เยอะ และในโลกยุคใหม่นี้ทำให้ประสบการณ์เก่าถูกนำมาใช้ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

"ผมมีโอกาสได้คุยกับนักธุรกิจหลายท่านมาก ทำให้รู้ว่าบางคนพออายุ 50 เขาจะสู้ไม่ค่อยได้ จะเริ่มถอยแล้ว แต่บางคนกลับรู้สึกว่ามันมีอะไรที่น่าเรียนรู้อีกเยอะ เพราะมันมีสิ่งที่เราไม่รู้เยอะมาก ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีมาก ทำให้รู้สึกว่าจากเดิมที่เคยคิดว่าผมต้องเรียนรู้อีก 20 เปอร์เซ็นต์ วันนี้ผมอาจต้องเรียนรู้อีก 60 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายถึง สนามนี้เป็นสนามที่มีขนาดใหญ่มาก"

สรกลระบุด้วยว่า สำหรับตนรู้สึกว่า “ความไม่รู้คือลาภอันประเสริฐ” เพราะทำให้รู้สึกว่า มันเป็นสิ่งใหม่ที่เราต้องเรียนรู้อีกเยอะมาก และกล่าวด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหญ่ที่ตนมองว่าต้องการการเรียนรู้คือ 'กลุ่มคนทำงาน' โดยมองว่ามันคือโอกาสที่จะมีสิ่งใหม่มาให้เราเรียนรู้

"ที่จริงน้ำเต็มแก้วอยู่ดีๆ เทคโนโลยีเข้ามาแล้วทำให้น้ำในแก้วรั่วออกไปครึ่งแก้ว ชีวิตที่มีการเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องสนุก มันมีความหวัง มีสิ่งใหม่มาให้เราได้เรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด นี่คือความโชคดีของคนในยุคนี้"