ต่างประเทศ
‘เซเลนสกี’ ถอดใจเอ่ยปากยันยูเครนจะไม่เข้าร่วม NATO แล้ว
“มันชัดเจนว่ายูเครนไม่ใช่สมาชิกของ NATO เราเข้าใจเรื่องนี้ดี” เซเลนสกีระบุ “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้ยินนโยบายเปิดกว้างที่ชัดเจน แต่ก็ได้ยินชัดแล้วว่าเราจะไม่เข้าไปร่วมด้วยในนั้น และนี่คือความจริง และ (ยูเครน) ต้องยอมรับมัน” เซเลนสกีแถลงด้วยปากตนเอง หลังจากคณะนายกรัฐมนตรีจากสาธารรรัฐเช็ก โปแลนด์ และสโลวีเนีย ในฐานะตัวแทนจากสหภาพยุโรปเดินทางเข้าพบตนในกรุงเคียฟ
ล่าสุดมีประชาชนชาวยูเครนอย่างน้อย 5 รายเสียชีวิตจากการระดมยิงปืนใหญ่โดยกองทัพรัสเซีย ณ กรุงเคียฟ ทั้งนี้ ศาลาว่าการของเมืองเคียฟได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 35 ชั่วโมง เพื่อควบคุมสถานการณ์การโจมตีตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอังคาร (15 มี.ค.) ที่ผ่านมา ปัจจุบันนี้ รัสเซียยังคงเดินหน้าการทิ้งระเบิดและยิงใส่อาคารบ้านเรือนตบอดจนประชาชนในหลายพื้นที่ของยูเครน
การกล่าวว่ายูเครนจะไม่เข้าร่วม NATO ในครั้งนี้ของเซเลนสกี สอดคล้องกับความต้องการของรัสเซียที่ระบุว่า ตนไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ NATO เพื่อสะกัดการขยายอิทธิพลของยุโรปตะวันตกเข้ามายังฝั่งยุโรปตะวันออก การประกาศของเซเลนสกีในครั้งนี้อย่างเป็นทางการ จึงอาจช่วยให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเริ่มเปลี่ยนท่าที หลังจากรัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนักในการรุกรานตลอด 20 วันที่ผ่านมา
ข้อเสนอของรัสเซีย 3 ประการในการยุติ “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” ในยูเครนครั้งนี้ระบุว่า ยูเครนจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเองเพื่อให้ยูเครนเป็นกลางและไม่เข้าร่วม NATO รวมถึงการประกาศรับรองเอกราชให้แก่สองพื้นที่ในภูมิภาคดอนบาสอย่างโดเนตสก์และลูฮันสก์ ตลอดจนการยกไครเมียให้แก่รัสเซียอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี ดิมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนได้ระบุเมื่อครั้งพูดคุยกับ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียในตุรกีว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่ต่างอะไรไปจากการประกาศให้ยูเครนยอมแพ้
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวได้แถลงว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดการจะเดินทางเยือนยุโรปในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าร่วมการประชุมสูงสุดของ NATO ในวันที่ 24 มี.ค. “เพื่อเดินหน้าหารือเกี่ยวกับการป้องปรามและความพยายามในการป้องกัน” จากการรุกรานของรัสเซีย โดยไบเดนจะเข้าร่วมการประชุมสูงสุดของคณะมนตรียุโรป ตลอดจนเดินทางเยือนยุโรปตะวันออกด้วย
ปัจจุบันนี้ มีประชาชนชาวยูเครนอย่างน้อยแล้ว 3.5 ล้านรายที่อพยพหนีภัยสงครามออกนอกประเทศ ทั้งนี้ เปตรา เฟียลา นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐเช็ก ยาเนซ แจนซา นายกรัฐมนตรีของสโลวีเนีย มาเตอูสซ์ โมราเวียสกี นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ และ ยาโรสลอว์ คาซินสกี รองนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ด้านความมั่นคง ในฐานะคณะผู้แทนจากสหภาพยุโรปได้เดินทางมายังกรุงเคียฟเพื่อเข้าพบเซเลนสกีได้ออกแถลงการณ์รบุว่า ยุโรปกำลังเจอกับ “ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากและอันตราย”
ที่มา:
