ที่กระทรวงยุติธรรม สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน พร้อมด้วย คอรีเยาะ มานุแช นายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พริ้ม บุญภัทรรักษา มารดาของ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรมขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ โดยมีวัลลภ นาคบัว รองปลัดและโฆษกกระทรวงยุติธรรมเป็นตัวแทนรับ

เพื่อความปลอดภัยตามสิทธิ

คอรีเยาะ กล่าวว่า กรณีอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ยื่นคำร้องถึงศาล ถึงความไม่ปกติในเรือนจำ อาจมีความอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน มีเจ้าหน้าที่เข้ามาหาในยามวิกาลหลายครั้ง เป็นการเข้าพบในห้องกักโรค และมีการพยายามแยกตัวออกจากห้องดังกล่าว มีการนำกำลังของเจ้าหน้าที่ที่มากกว่า การเข้าเวรตามปกติมากถึง 10 คน ในเวลาดึกจนทำให้เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย วันนี้พวกเราจึงมาเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมเร่งสอบสวนกรณีดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาทุกคนอย่างเคร่งครัด และเป็นไปตามสิทธิมนุษยชนด้วย

จี้ตั้งคณะกรรมการสอบ

พริ้ม กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปในเวลาวิกาลไม่ควรเกิดขึ้น และต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยต้องไม่ให้คนภายในเรือนจำมาร่วมด้วย เพราะจะเกิดความไม่โปร่งใส เพื่อสอบข้อเท็จจริง เพราะถ้ามีคนในเรือนจำมาร่วมด้วย เราไม่ไว้วางใจการที่เจ้าหน้าที่เข้าไปยามวิกาล เป็นการกดดันทางจิตวิทยาและลูกของเธอต้องมีสิทธิในการต่อสู้ให้ถึงที่สุด วันนี้พวกเขาเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่มีความผิดจนศาลจะตัดสินถึงที่สุด ตนจึงอยากฝากตรงนี้ไว้ด้วย

ถูกกีดกันการเข้ารับฟังการไต่สวน

สุรีรัตน์ กล่าวว่า เพื่อความโปร่งใสทุกคนควรมีสิทธิเข้ารับฟังการไต่สวน เพราะตนไม่ถูกอนุญาตให้เข้าฟัง ทั้งที่ลูกตนเป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่ปลอดภัย การไต่สวนควรเปิดเป็นสาธารณให้ใครก็เข้าฟังได้ และตั้งแต่ลูกชายของตนถูกจับ ยังไม่เคยได้รับการอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเลย มีผู้รู้หลายท่านบอกกันตนว่า จริงๆแล้วเรามีสิทธิในการเยี่ยมบุตรหลานของตนเอง และตนคิดว่าการเยี่ยมผ่านห้องเยี่ยม คุยกันผ่านสายโทรศัพท์คงไม่ทำให้ติดโควิดได้

ยุติธรรมพร้อมเร่งสอบสวน

วัลลภ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากกระทรวงยุติธรรม ให้เป็นตัวแทนของกระทรวงยุติธรรมในการรับเรื่อง และตนได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการประมวลจริยธรรม เพื่อสอบสวนถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งข้อกังวลเกี่ยวกับมาตรฐานการปฏิบัติ เราได้รับการกำชับจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลให้ดี ส่วนการเร่งด่วนในการตรวจโควิดยามวิกาลหรือไม่

เรื่องนี้ตนจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ต้องสอบสวนผู้ปฏิบัติ และหากต้องมีการสืบสวนเชิงลึก เราจะให้ทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย และเราไม่ได้ให้ผู้ที่ร่วมปฏิบัติงานและมีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมเป็นกรรมการสอบสวน ขอให้สบายใจได้ ส่วนการไต่สวนของศาล คงต้องขอรับไปประสานเพราะไม่ได้เป็นส่วนงานของกระทรวงยุติธรรม