ไม่พบผลการค้นหา
กมธ.ตำรวจฯ เผยผลหารือร่วม บช.น. ชี้ม็อบทะลุแก๊สดินแดงไม่ใช่การชุมนุม แต่เป็นจราจล เหตุไม่มีแกนนำ-ไม่มีข้อเรียกร้องที่ชัดเจน แจงปมรถ คฝ.ชนผู้ชุมนุม ไม่ใช่ชุด คฝ.ดินแดง แค่สแตนบายรอกลับบ้าน

ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงรายงานผลการร่วมประชุมกับกองบัญชาการนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สที่บริเวณดินแดงว่า ผลการประชุมมี 3 ประเด็นหลัก 1.ผู้ก่อเหตุจราจลปาระเบิดแบบปะทัดยักษ์ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้บาดเจ็บสาหัสบริเวณใบหน้า

ซึ่งขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการเยียวยาเบื้องต้นให้กับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 2.การเผาป้ายเฉลิมพระเกียรติบริเวณทางด่วนแยกดินแดงและถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบกลุ่มผู้กระทำผิดแล้วว่าเป็นเยาวชน และจะดำเนินการแจ้งความและออกหมายจับตามกระบวนการ และ 3.กรณีรถควบคุมผู้ต้องหาชนผู้ชุมนุมใต้ทางด่วนดินแดง ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน 

ทั้งนี้ นายณัฏฐ์ชนน กล่าวถึงกรณีรถควบคุมผู้ต้องหาชนผู้ชุมนุมใต้ทางด่วนดินแดง ว่า สามารถแยกเป็นหลายประเด็น คือ 1.รถควบคุมผู้ต้องขังคันนี้อยู่ในชุดควบคุมฝูงชน หรือไม่ หรือไปแสตนบายแล้วเดินทางกลับ 2.เมื่อมีการชนเกิดขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตหรือไม่ ปรากฏว่ารถควบคุมผู้ต้องขังคันนี้ไม่ได้อยู่ในชุดคฝ.ดินแดง แต่เป็นชุดแสตนบายที่ บช.น. ให้ไปอยู่อีกจุดหนึ่งเพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ซึ่งได้มีการดูภาพเพื่อตรวจสอบว่ารถคันนี้มาจากเส้นทางใดก่อนที่จะถึงบริเวณที่จะชน โดนปาระเบิดหรือโดนทำลายรถหรือไม่

ทำไมถึงต้องเร่งความเร็วในช่วงที่มีการชน และจากการดูภาพสโลโมชันพบว่า คนที่ถูกชนกระโดดข้ามถนนไป โดยตอนแรกคิดว่าขับรถจักรยานยนต์ แต่ปรากฏว่าเมื่อรถวิ่งผ่านทางด่วนดินแดง คนที่ถูกชนอยู่บนฟุตปาธและได้วิ่งตัดหน้ารถไป ซึ่งวันนี้คนที่ถูกชนปลอดภัยและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี แต่เมื่อพยาบาลได้ขอประวัติ เขาก็ได้หนีออกจากโรงพยาบาล เด็กคนนี้เป็นเยาวชนไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และไม่ได้เสียชีวิตตามที่เป็นข่าว


ไม่ใช่ชุมนุมแต่จลาจล

ณัฏฐ์ชนน ยังกล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการขับรถผู้ต้องขังชน ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาสำหรับบุคคลที่ถูกชน ในกรณีนี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ และต้องไปดูว่าการกระทำความผิดเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือวันนี้รถราชการเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นล้อ บริเวณรอบรถ ซึ่งหากรู้ตัวผู้กระทำความผิดก็คงจะไล่เบี้ยไปตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายจราจลหรือกฎหมายอื่นๆ ในส่วนของการกระทำฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องแยกเป็นกระทงไป ไม่เอามารวมกัน

ณัฏฐ์ชนน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กมธ.ตำรวจฯ ได้ลงไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเก็บข้อมูลรอบด้าน ปรากฏว่าผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดงที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มทะลุแก๊สไม่ใช่ผู้ชุมนุม เพราะไม่ได้เข้าหลักการชุมนุม แต่เป็นการก่อเหตุจราจล โดยไม่มีแกนนำไม่มีข้อเรียกร้องที่ชัดเจน และเป็นการใช้กำลังและอุปกรณ์เทียมอาวุธและอาวุธในการทำร้ายร่างกาย มีกลุ่มเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปีเข้าร่วมกับกลุ่มนี้ด้วย

โดยเดินทางมาจากเขตปริมณฑล ได้แก่ จ.นครปฐม จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ และจังหวัดใกล้เคียง ดังนั้นเราจะใช้คำว่าผู้ชุมนุมไม่ได้ แต่เป็นผู้ก่อเหตุจราจล นอกจากนี้ รายังได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเคหะสถานแฟลตดินแดนหรือไม่ ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้เข้าไป และกรณีที่เด็กเยาวชนโดนเตะหรือผลักลงจากแฟลตมาข้างล่างก็ไม่ใช่ความจริง ทั้งนี้หากสื่อมวลชนหรือประชาชนมีข้อมูลอีกมุมหนึ่งก็สามารถส่งมาที่ กมธ.ตำรวจฯ ได้