ในการประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร หรือ วิป ส.ส.ที่มีนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ. ได้เชิญ นายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัย ผู้อำนวยการสำนักการคลังและงบประมาณ เข้าชี้แจง เพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารการจัดการสถานที่และมาตรการการรักษาความปลอดภัยภายในอาคารและบริเวณโดยรอบรัฐสภาตามระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2559 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
กมธ.ส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตถึงการจัดการบริเวณที่จอดรถซึ่งปัจจุบันเมื่อมีการประชุมของรัฐสภาหรือการประชุมร่วมกันของสองสภาจะเกิดปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ จึงอยากให้มีการกันส่วนพื้นที่จอดรถไว้อย่างน้อย 500 คัน สำหรับ ส.ส. พร้อมด้วยพื้นที่สำหรับรัฐมนตรี และข้าราชการที่ต้องเข้ามาชี้แจงใน การประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ระหว่างวันที่ 17-18 ต.ค.นี้
ส่วนผู้ติดตาม ส.ส.จำนวนมากนั้น ขอความร่วมมือไม่ให้นำมาจอด รวมถึงอยากให้มีการบูรณาการแผนความร่วมมือดูแลความปลอดภัยแก่สมาชิกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลโดยรอบรัฐสภา และอย่างน้อยต้องมีห้องรับรองสำหรับประธาน กมธ.ทั้ง 35 คณะ พร้อมเสนอให้ตั้งอนุ กมธ. 2 คณะคือ ด้านอาคารและสถานที่ กับด้านสิทธิประโยชน์บุคลากร
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ถ้าสภาเสร็จตามกำหนดเดือน ธ.ค.นี้ ตนพร้อมจ่ายเงินสนับสนุนให้ 1 ล้านบาท แต่ถ้าเสร็จไม่ทัน ตนขอแค่ 5 แสนบาทก็พอ ทั้งนี้ ขอตำหนิสภาแห่งนี้ว่า ไม่มีความสง่างาม พอเลิกประชุมทำรถติดโดยรอบบริเวณ จึงขอเรียกร้องให้คำนึงถึงช่องทางการเข้าถึงสภา เสนอให้ผลักดันเป็นนโยบาย ตนคิดว่า จำเป็นต้องมีรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดิน รางใหญ่ไม่ได้ รางเบาก็ยังดี เสียเงินเป็นหมื่นล้านก็ต้องทำ
นายอนันต์ ยังได้แสดงความเป็นห่วงถึงแผนการรักษาความปลอดภัยรัฐสภาใหม่ ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ โดยในอนาคตเห็นว่าควรมีการจัดจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดูแลระบบเทคโนโลยีความปลอดภัย ส่วนกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาควรจะดูแลความปลอดภัยของสมาชิกเป็นหลัก รวมถึงอยากให้มีการอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาที่เข้าเวร เช่น ให้มีที่อาบน้ำเป็นกิจจะลักษณะ
ด้านนายสุชาติ ชี้แจงว่า มีการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ ในปี 2563 ฝ่ายสำนักรักษาความปลอดภัย ได้ขอตั้งเบิกวงเงินงบประมาณรองรับการรักษาความปลอดภัยรัฐสภาแห่งใหม่ แต่สำนักงบประมาณไม่อนุมัติ ต้องเสนอแปรญัตติต่อ ส.ส.เพื่อตัดสินใจ โดยในงบประมาณส่วนนี้รวมถึงการจัดจ้างเพิ่มบุคลากรเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา 150 อัตรา พร้อมขอให้มีการแก้ไขคุณสมบัติ เพื่อให้มีผู้สนใจมาสมัครเพิ่มขึ้น เนื่องจากเดิมต้องผ่านการเกณฑ์ทหารมาแล้ว 2 ปี ถ้าเรียนรักษาดินแดนถือว่าขัดคุณสมบัติ ซึ่งปัจจุบันผู้ที่ผ่านการศึกษาระดับปริญญาตรีนั้นไม่เกณฑ์ทหารกันแล้ว
นายสุขาติ กล่าวว่า ทั้งนี้ตำรวจรัฐสภานอกจากผ่านการคัดเลือกแล้วยังต้องได้รับการฝึกฝนจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน 7 เดือนถึง 12 เดือนก่อนปฏิบัติหน้าที่จริง ส่วนช่องทางการเข้าถึงรัฐสภานั้น มีโครงการอยู่แล้ว 3 โครงการ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ของรัฐสภาด้วยคือ 1.สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เกียกกาย กินพื้นที่ 2 ไร่ 2.ทางจักรยาน กินพื้นที่เขื่อนกันน้ำท่วม และ 3.ขยายถนนสามเสน ก็จะกินทางเท้า
นอกจากนี้ นายสุชาติยังหารือต่อที่ประชุมด้วยว่า จะรีบจัดหาห้องสำหรับประธานกมธ.ทั้ง 35 คณะให้ แต่ทาง 10 พรรคเล็กเองก็ขอแยกห้องพักรับรองด้วยเช่นกัน ด้านนายอนันต์ ชี้แจงว่า ให้ความสำคัญกับ กมธ.ก่อน ส่วนพรรคเล็กนั้นให้ไปอยู่รวมกัน
อย่างไรก็ตาม ประธาน กมธ. สั่งเห็นควรให้การประชุมในสัปดาห์หน้า ได้มีการเชิญฝ่ายวิศวกรผู้ออกแบบรัฐสภาแห่งใหม่ และสถาปนิก เข้าร่วมชี้แจงข้อมูล เพื่อพิจารณาปัญหาการจัดการ สถานที่และมาตรการการรักษาความปลอดภัย ก่อนคณะกรรมาธิการฯ จะลงพื้นที่จริงศึกษาหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป