โอ๊ค ลั่น สู้ไม่ได้ก็จะสู้ ยอมรับ เครียด

พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กระบาย ยุคนี้ “ลูกทักษิณ” หาโอกาสที่จะอยู่แบบสบายๆ ยากมาก

เฟซบุ๊กเพจของนายพานทองแท้โพสต์ข้อความเมื่อเวลา 20.30 น. โดยแชร์ข้อความให้กำลังใจจากเฟซบุ๊กที่ใช้นามแฝงว่า Fah Borkan โดยเพจของนายพานทองแท้เขียนแคปชั่นประกอบว่า

"เชื่อครับ...ว่ายุคนี้ “ลูกทักษิณ”

"หาโอกาสที่จะอยู่แบบสบายๆ ยากมาก

"ผมยอมรับว่าครั้งนี้ #หนักที่สุดในชีวิต

"และ เครียดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"#ใครไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอก

"ขอบคุณมากครับที่เป็นห่วง และเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆอย่างทะลุปรุโปร่ง

"มีเห็นไม่ตรงกันนิดเดียว คือ

"สำหรับตัวผมชีวิตตอนนี้ก็มาถึงหลักสี่แล้ว

"ตัวคนเดียว ยังไม่มีพันธะอะไรที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ทำให้ไม่ต้องคิดไรมาก

"#สู้ได้ผมก็สู้

"....และถึงจะ....

"#สู้ไม่ได้ผมก็จะสู้ ครับ"

ทั้งนี้ นับเป็นความเคลื่อนไหวจากนายพานทองแท้หลังจากไปให้การในศาลคดีที่เขาตกเป็นจำเลยจาก คดีปล่อยกู้กรุงไทย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้เดิมเขาถูกเรียกเป็นพยาน แต่เมื่อมอบหลักฐานว่าตนได้รับเช็คจำนวน 10 ล้านบาทและคืนไปแล้วโดยไม่มีการเบิกจ่าย กลับถูกสั่งฟ้องเป็นจำเลยด้วยข้อหาฟอกเงิน

ให้หลักฐานเรื่องการโอนเงิน 10 ล้าน จบที่การถูกฟ้องเอี่ยวฟอกเงิน

จุดเริ่มต้นของคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 หลังจากนายรัชดา กฤษดาธานนท์ ได้โอนเงินจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชีนายพานแท้ ระบุวันที่ 30 ธันวาคม 2546 เพื่อร่วมกันทำธุรกิจยานยนต์ ต่อมาชื่อของนายพานทองแท้ ได้ถูกรวมในข้อหาฟอกเงิน ที่มีโทษจำคุกสูงสุด10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถึงการกู้เงินธนาคารกรุงไทยของกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ในวงเงิน 8,000 ล้านบาท ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเงิน 10 ล้านบาท แม้ว่าก่อนหน้านี้นายพานทองแท้ได้มีการ 'โอนเงินคืน' นายรัชฎาไปแล้ว และที่สุด อัยการสั่งฟ้องและศาลไต่สวนคดีดังกล่าว โดยนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 พ.ย. นี้

ศาลยกฟ้องพ่อ เหตุไร้หลักฐาน

ในคดีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ อดีตนายกฯ ทักษิณ ถูกกล่าวหาว่าเป็น "บิ๊กบอส" สั่งให้มีการปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกรุงไทย โดยวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษายกฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี โดยให้เหตุผลว่าพยานหลักฐานของโจทก์ที่ไต่สวนมายังไม่มีน้ำหนัก

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา นายพานทองแท้แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียหลายครั้งถึงความรู้สึกไม่เป็นธรรมที่ถูกดำเนินคดีดังกล่าว เนื่องจากเขามอบหลักฐานด้วยความบริสุทธิ์ใจและมีบุคคลอื่นๆ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับเช็คจากบริษัทกฤษดามหานครเช่นกัน ทั้งยังนำไปขึ้นเงินแต่กลับไม่ถูกเรียกสอบหรือดำเนินคดีแต่อย่างใด