นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ยอดลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ณ วันที่ 17 เม.ย. 2563 รวมทั้งสิ้น 28 ล้านคน ในจำนวนนี้ เมื่อหักการลงทะเบียนซ้ำหลายครั้งออกแล้ว คงเหลือจำนวนผู้ลงทะเบียน 23.5 ล้านคน โดยจากสถานะการตรวจสอบและคัดกรองล่าสุด พบว่ามีกลุ่มผ่านเกณฑ์ 4.2 ล้านคน ได้เริ่มต้นโอนเงินเข้าบัญชีไว้ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2563 เรียบร้อยแล้ว 3.2 ล้านคน คิดเป็นจำนวนเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังได้เร่งโอนเงินเยียวยาต่อเนื่องทุกวันทำการ สำหรับในกลุ่มที่เหลืออีก 1 ล้านคน จะได้รับเงินเยียวยาภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ยังมีกลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม 6.3 ล้านคน ซึ่งทยอยได้รับ SMS แจ้งให้นำส่งข้อมูลเพิ่มเติมและได้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว 4.4 ล้านคน ส่วนที่เหลืออีก 1.9 ล้านคน ขอให้เร่งเข้าไปกรอกแบบสอบถามในระบบ หากผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินเยียวยาอย่างรวดเร็ว ส่วนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ก็จะสามารถไปใช้ช่องทางขอทบทวนสิทธิ์ได้
ส่วนกลุ่มไม่ผ่านเกณฑ์ 10.6 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามีฐานข้อมูลเป็นเกษตรรกร อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 รวมถึงนักเรียนนักศึกษา ซึ่งได้ทยอยส่ง SMS แจ้งผลการคัดกรองแล้ว 4.7 ล้านคน ส่วนที่เหลือทั้งหมด จะได้รับ SMS ภายในสัปดาห์นี้ สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์สามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้เตรียมข้อมูลสำคัญและกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง เช่น อาชีพของผู้ลงทะเบียน สถานที่และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ โดยจะ “ทีมพิทักษ์สิทธิ” ลงพื้นที่จริงเพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยล่าสุดยอดการขอทบทวนสิทธิ ณ เวลา 12.00 น. อยู่ที่ 7.4 แสนคน
นายลวรณ ระบุว่า ในส่วนของคนที่ยื่นทบทวนสิทธิ หากผ่านการตรวจสอบและมีสิทธิที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท คาดว่าจะสามารถทยอยโอนเงินเข้าบัญชีได้ภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะมีการประสานขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีที่มีการขึ้นทะเบียนประกอบการเอาไว้ จะทำให้กระบวนการตรวจสอบเร็วขึ้น ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ หรือ ขยายจำนวนผู้ที่จะได้รับสิทธิมากกกว่า 9 ล้านคน ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งตั้งเป้าจำนวนผู้ที่จะได้รับเงินทั้งหมด หากผ่านคุณสมบัติเกิน 10 ล้านคนก็จะจ่ายเงินทั้งหมด
“การโอนเงินจะแยกเป็น 2 กรณี คือ กรณีแรกหากได้รับในวันที่ 8 หรือ 9 เดือนถัดไปก็จะได้รับในวันเดียวกัน ยกเว้นติดวันหยุดก็จะโอนเงินในวันถัดไป กรณีที่สอง คือ หากผ่านคุณสมบัติในเดือน พ.ค. ก็จะได้รับเงินพร้อมกัน 2 งวด หรือ 10,000 บาท และจ่ายงวดสุดท้ายในเดือน มิ.ย. 2563” นายลวรณ กล่าว