ไม่พบผลการค้นหา
คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ฟังปัญหาความเดือดร้อน วิกฤตเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ติงรัฐบาลสื่อสารสับสน กรณีรับนักท่องเที่ยวจีน ไม่มีมาตรการสร้างความมั่นใจในการควบคุมโรค ส่งผลนักท่องเที่ยวไทยแห่ยกเลิกจองที่พัก หวั่นโควิด-19 ระบาดรอบสอง ผู้ประกอบการโอดยอดตกฮวบ จี้แก้ปัญหาตรงจุดช่วยคนที่จะตาย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต รับฟังปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะวิกฤตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่หายไป ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบในระดับจังหวัดเท่านั้น แต่ทำให้รายได้ประเทศหายไปด้วย อย่างจังหวัดภูเก็ตซึ่งเคยทำรายได้เข้าประเทศรายได้ปีละกว่า 4 แสนล้านบาท และทำให้คนอีกกว่า 2 แสนคนมีงานทำ ดังนั้นการมาภูเก็ต จึงมีข้อสรุปว่าต้องทำให้จังหวัดแห่งนี้กลับมา เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัง COVID-19 อย่างปลอดภัย ทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็น ‘หลุมหลบภัยจาก COVID-19’ ให้คนทั่วโลกมาท่องเที่ยว หรือมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย 

สิ่งแรกเลยคือ รัฐต้องลงทุน ‘โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข’ ด้านการรักษา และป้องกัน COVID-19 อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมประกาศสร้างความมั่นใจให้ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ว่าไทยเรามีระบบควบคุมการระบาดที่มีประสิทธิภาพ และหากมีการติดเชื้อเราก็สามารถรักษาให้หายได้ โดยสถานประกอบการสามารถรักษามาตรฐานการป้องกัน COVID-19 ได้ ซึ่งต้องวางระบบการป้องกันในเชิงระบาดวิทยาซึ่งสามารถควบคุม พื้นที่หากมีการระบาดกรณีฉุกเฉินได้ 

พร้อมเชิญชวนคนที่จะเข้ามาใช้ชีวิตท่องเที่ยวและทำงาน ภายใต้ นิยามว่า ‘Staycation’ โดยมีการกักตัว ในสถานที่พักผ่อนที่สามารถทำกิจกรรมผ่อนคลาย และทำงานไปพร้อมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลควบคุม

เชื่อว่าหากดำเนินการได้จะสามารถรับคนที่จะมาทำงานได้จากทั่วโลก และเห็นว่าหากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำเร็จ จะสามารถดึงคนเข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยวในระยะยาว เพื่อใช้ประเทศไทย เป็นหลุมหลบภัย COVID-19 ได้ ซึ่งภาครัฐอาจต้องอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า รวมถึงการรับรองความปลอดภัย พร้อมเก็บรายได้จากการเข้ามาใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

"วันนี้เป็นที่น่าเสียดายที่รัฐยังไม่สามารถออกมาตรการให้ประชาชนเกิดความมั่นใจได้ว่า รัฐมีความพร้อมสำหรับการรับมือ COVID-19 ได้" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

"ยิ่งไปกว่านั้น การข่าวสารข้อมูลของรัฐบาลต้องนานไม่สับสนเช่น 2-3 วันนี้ทราบว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีน กลุ่มแรกเข้ามาแต่ก็ถูกเลื่อนมาเรื่อย ก็ยังไม่มีมาตรการว่าเอาเข้ามาแล้ว จะให้อยู่ตรงไหน ทำอย่างไร กักตัวหรือไม่" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่าต้องทำมาตรฐาน ทางด้านการสาธารณสุข ให้คนเกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะการกำกับควบคุมไม่ให้โรคเกิดการระบาด เหล่านี้คือสิ่งที่เคยเสนอไปหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากภาครัฐ เมื่อรัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจนจึงสร้างความหวาดกลัวให้คนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทย ก็ยกเลิกการจอง รายได้ที่คิดไว้ก่อนหน้าจึงหายไป 

"เราไปภาคภูมิใจกับความเป็นแชมป์โลก ที่ไม่มีการติด COVID-19 แต่ถามว่าวันนี้ เราจะรักษาแชมป์การที่ไม่มีคนติด COVID-19 เลย กับการที่จะทำให้คนไทยอยู่อย่างปลอดภัยกับ COVID-19 แล้วเศรษฐกิจเดินได้ จะเลือกอะไร" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำด้วยว่าการให้ข้อมูลของภาครัฐยังสับสน ไม่มีความชัดเจนแน่นอน อย่างกรณีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจากจีน ที่รัฐบาลจะหวังเป็นข่าวดีในการฟื้นธุรกิจท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่า แต่ละหน่วยงาน แต่ละ รมต.ออกมาประกาศไม่ตรงกันเลย สร้างความสับสน ต่างคนต่างพูด

รวมถึงไม่มีมาตรการสร้างความมั่นใจ ได้เลยว่า รัฐจะมีความสามารถและมีศักยภาพในการควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดได้ จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ตั้งใจที่จะไปเที่ยวที่ภูเก็ตแห่กันยกเลิกที่พัก เพราะกลัวว่าเมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาจะมีการระบาดรอบสองอีกหรือไม่ เมื่อมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามา แน่นอนว่าคนไทยต้องการรับนักท่องเที่ยว แต่หากไม่มีมาตรการที่ชัดเจน ก็ต้องกลัวไว้ก่อน สิ่งเหล่านี้ จึงเป็น สิ่งที่น่ากังวล 

S__41083054.jpg

ด้าน ต่อพงษ์ วงศ์เสถียรชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เลิฟอันดามัน จำกัด สะท้อน 5 ข้อเรียกร้องไปยังหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1.ให้โครงการเที่ยวไปด้วยกัน ขยายการใช้จ่ายไม่ใช่แค่สายการบินและโรงแรม แต่ครอบคลุมถึงทัวร์บก ทะเล เรือเฟอร์รี่ ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงเกาะต่างๆ ด้วย รวมถึงรถเช่าต่างๆ ที่จะทำให้คนเที่ยวได้ถูกลง เมื่อดูจากยอดการใช้จ่ายของโครงการจังหวัดภูเก็ตอยู่อับดับ 4 ทั้งที่มีห้องพักมากที่สุด และบาดเจ็บมากที่สุด เพราะค่าใช้จ่ายเดินทางสูงกว่า 2.โครงการท่องเที่ยวของ อสม. ที่กำหนดให้เที่ยวข้ามจังหวัด มีรถรับส่ง ที่พัก และอาหาร ภายใต้งบประมาณ 2,000 บาททำให้ไม่สามารถไปเที่ยวไกลๆ ได้ ภูเก็ตจึงไม่ได้รับโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะมาใช้จ่าย ควรบอกเลิกเงื่อนไขบางประการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดที่พึ่ฃพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก 3.ธุรกิจต่างๆ ตามเกาะปิดตัวเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว เช่น เกาะพีพี ดังนั้นหากเปิดอ่าวมาหยา หรือเกาะตาชัย โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่อวัน และกำหนดเงื่อนไขให้นักท่องเที่ยวไปค้างเกาะพีพี และใช้เรือหางยาวชาวบ้าน ซึ่งจะเปิดในลักษณะช่วงเวลาพิเศษให้คนไทยได้ชมความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติในช่วงโควิดปิดการท่องเที่ยวจากต่างชาติ ถือเป็นการใช้วิกฤติเป็นโอกาส ยกระดับการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานมากขึ้น 4.หน่วยงานราชการทำงานบูรณาการณ์ให้มากขึ้น การประชุม ครม. ควรลงมาฟังผลกระทบจริงให้เห็นปัญหาจริง หรือลงไปพักในที่ๆ เป็นปัญหา หากแก้ไขปัญหาตรงจริงได้เร็วก็ช่วยคนที่จะตายได้ง่าย อย่าแบ่งพรรคหรือกลัวเสียหน้าว่านโยบายที่ออกมาดีแล้วแต่ไม่ปรับปรุง