โอเปก หรือ องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก และพันธมิตร รวมรัสเซีย ประชุมกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และทำข้อตกลงครั้งว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะลดการน้ำมันดิบโลกลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณร้อยละ 10 ส่วนประเทศที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มโอเปกพลัส อย่าง สหรัฐฯ แคนาดา บราซิล และนอร์เวย์จะลดการผลิตลง 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะเริ่มลดการผลิตตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ไปจนถึงเดือนมิ.ย.
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการผู้บริโภคในการใช้น้ำมันลดลง เพราะคนมากกว่า 3,000 ล้านคนต้องอยู่บ้านลดการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมีการประเมินว่าความต้องการซื้อน้ำมันลดลงถึง 1 ใน 3 แต่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียที่ทำสงครามแบ่งส่วนแบ่งการตลาด ต่างก็ไม่ยอมลดการผลิต
(การประชุมโอเปกพลัสเพื่อบรรลุข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันในช่วงโควิด-19 ระบาด)
ข้อตกลงนี้เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับการลดการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีการทำข้อตกลงกันมา โดยกลุ่มประเทศโอเปก+ ประกาศแผนจะลดการผลิตกันตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. แต่เม็กซิโกยืนยันว่าจะลดการผลิตลง 100,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น สหรัฐฯ จึงเสนอว่าจะลดการผลิตน้ำมันชดเชยส่วนที่เหลือของเม็กซิโกเอง ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่ายื่นข้อเสนอดังกล่าวจริง เพราะเป็นการลดปริมาณน้ำมันไม่มากสำหรับสหรัฐฯ แต่มากสำหรับเม็กซิโก
แม้โอเปกจะยังไม่ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ประเทศต่างๆ ได้ยืนยันแล้วว่ามีการตกลงดังกล่าวจริง โดยทรัมป์ และดร.คาเลด อาลี โมฮัมเหม็ด อัล-ฟาเดล รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของคูเวตได้ทวีตเกี่ยวกับข้อตกลงนี้แล้ว รวมถึงกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย และสำนักข่าวทางการของรัสเซียก็ออกมายืนยันข้อตกลงดังกล่าวแล้วเช่นกัน
มีการประเมินว่าจะมีการลดการผลิตน้ำมันอีกครั้งให้มีการผลิตน้ำมันดิบที่ประมาณ 8 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงก.ค.-ธ.ค.นี้ และจะลดลงเหลือ 6 ล้านบาร์เรลในช่วงม.ค. 2564 - เม.ย. 2565