วันที่ 12 มี.ค. 2566 ที่อาคารวังเป็ดร่วมใจ วัดวังเป็ด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงการปราศรัยประกาศจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐ หากพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. 310 เสียง ว่า เรื่องนี้มันเป็นยุทธศาสตร์และเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ถ้าประชาชนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยถ้าได้เสียงถึง 310 เสียง เราประกาศว่าจะไม่จับมือกับใคร โดยเฉพาะฝากฝั่งที่มาจากซีกเผด็จการ ตนไม่อยากให้กระพือข่าวมาปิดกั้นทำลายพรรคเพื่อไทย เมื่อถามย้ำว่า หลังการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับเผด็จการ นพ.ชลน่าน ตอบว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ 310 เสียงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจับมือ

เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยได้เสียงไม่ถึงตามที่ประกาศไว้อาจจะถูกมองว่าจับมือกับพรรคการเมืองใดก็ได้ นพ.ชลน่าน ระบุว่า อยู่ที่ผลการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ถ้าไม่ถึงก็ต้องดูตัวเลขของ ส.ส. ซึ่งพรรคที่ประชาชนมอบหมายความไว้วางใจให้ ต้องดูลำดับเสียงถัดจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองใด แต่อุดมการณ์ต้องยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยที่สามารถทำงานร่วมกันได้

ขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุถึงความมั่นใจการเลือกตั้ง ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันและมีความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยได้นำนโยบายมาเสนอพี่น้องประชาชนและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ได้ทำงานอย่างหนัก ดังนั้น มีความมั่นใจอย่างมากในการเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดพิษณุโลกทั้ง 5 เขต

ถามย้ำว่าพื้นที่ อ.บางระกำ เดิม เป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยแต่สองคนเดิมได้ย้ายพรรคภูมิใจไทยไปแล้ว นแพทองธาร ระบุว่า พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 4 พรรคเพื่อไทย ที่มาลงสมัคร คนในพื้นที่ก็รู้จักอยู่แล้ว แน่นอนเพิ่มเติมคือการแนะนำให้ ผู้สมัครของพรรคได้ไปทำงานเพื่อผลักดันนโยบายให้พี่น้องประชาชน

ด้าน นพ.ชลน่าน ระบุยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมั่นใจ 100% จะสามารถเอาชนะ ส.ส.คนเดิมได้

ขณะที่ เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุถึงความรู้สึกของการปราศรัยใน 2 เวทีที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดพิษณุโลกว่า ตื่นเต้นดีใจและซาบซึ้งใจที่พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับที่ดี โดยมี น.พ.ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, แพรทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, มีจาตุรนต์ กรรมการยุทธศาสตร์, ณัฐวุฒิ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เป็นแรงบันดาลใจอยู่แล้ว และช่วยเหลือเต็มที่ 

เมื่อถามย้ำว่าลีลาการปราศรัยของเศรษฐาดุเดือดขึ้นกว่าเวทีแรก เศรษฐา ระบุว่า สงสัยมาจากความอัดอั้นตันใจ เป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาที่ตนจะต้องมาขยายนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ประชาชนทราบถึงอนาคต ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยมาทักจะทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง