ไม่พบผลการค้นหา
ประธาน นปช. ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ หาเสียงเขตสายไหมและบางเขน เห็นควรลดงบกองทัพ ไปช่วยแก้ปัญหาความยากจนให้ประชาชนก่อน ชี้มีหรือไม่มีเลือกตั้งยัง 50-50

นายวิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายสุชาติ อุทัยวัฒน์ กรรมการบริหารพรรค และนายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรค พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ พร้อมคณะผู้บริหารพรรคเพื่อชาติ นำคณะลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อขอคะแนนเสียงช่วย นายภาคิน นิธิโชติการ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เบอร์ 9 เขตสายไหม และ พันตำรวจเอกนายแพทย์ ปิยะพงษ์ สาครเย็น ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ เบอร์ 3 เขตบางเขน ที่ตลาดเอซี สายไหม และต่อด้วย วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน

นายจตุพร กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคลงพื้นที่มาเป็นระยะเวลานาน ได้รับผลตอบรับดีขึ้นตามลำดับ วันนี้ได้มาเดินขอแรงสนับสนุน เชื่อว่าระยะเวลาหนึ่งเดือนเศษที่จะถึงนี้ จะทำให้พรรคเพื่อชาติเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนมากขึ้น ถ้าเราเดินไปถึงวันเลือกตั้ง ทุกคน ทุกเขตจะเดินหน้า นำเสนอนโยบายให้ประชาชนเข้าใจ

ส่วนเรื่องผลทางคะแนนจะเป็นผลตามหลัง ขณะนี้พรรคเพื่อชาติเดินมาถึงจุดที่ว่า การได้เป็นผู้แทนเป็นเรื่องที่สอง การแก้ไขปัญหาชาติ โดยเฉพาะเรื่องความเป็นประชาธิปไตย และความยากจน จะเป็นเรื่องแรก ซึ่งเราเดินแนวทางนี้กันมาตลอด จึงไม่มีเสียงจากพรรคเพื่อชาติว่าต้องการกี่เสียง

ส่วนกรณีข้อเสนอปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม เพื่อนำไปใช้พัฒนาส่วนอื่นของประเทศ นายจตุพร กล่าวว่า เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า เมื่อมีการยึดอำนาจทุกครั้ง งบประมาณของกระทรวงกลาโหมจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชน ถามว่าความอดอยากของประชาชนกับเรือดำน้ำ อันไหนจะมีความสำคัญมากกว่ากัน ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็จะเลือกนำเงินส่วนนี้ไปแก้ไขปัญหาความยากจนก่อน แต่หลักคิดของผู้ยึดอำนาจ ถือว่าเป็นการลงทุน ก็ต้องไปซื้อเรือดำน้ำ ซื้ออาวุธก่อน

"ช่วงห้าปีที่ผ่านมานั้น งบประมาณในส่วนของกองทัพ ได้เติบโตในสัดส่วนที่มากกว่าในยามบ้านเมืองเป็นปกติ เพราะฉะนั้นใน 4 ปีต่อไป ควรจะให้ประชาชนมากบ้าง การจะนำงบประมาณไปก็เพียงเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาความยากจน บรรดาผู้นำเหล่าทัพ ควรจะมองโลกอย่างกว้าง ๆ แล้วควรมองโลกด้วยความเป็นจริงว่า ขณะนี้เราไม่มีศึกสงคราม แต่ประชาชนจนจริง เดือดร้อนจริง" นายจตุพร กล่าว

เสนอเปิดเพลง "คืนความสุข" แทนเพลง "หนักแผ่นดิน" ในรั้วทหาร

นายจตุพร ยังกล่าวถึงเพลงหนักแผ่นดินว่า เป็นเพลงที่แต่งขึ้น และเผยแพร่ใน พ.ศ. 2518 ด้วยเจตนารมย์สร้างความแตกแยกภายในชาติ  ซึ่งแบ่งระหว่างซีกขวาและซ้าย เป็นแนวความคิดขวาพิฆาตซ้าย อันนำไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่มีการจับนักศึกษาแขวนคอ เผาทั้งเป็น ล้อมปราบ ทำให้นักศึกษาจำนวนมากต้องหนีเข้าป่า ไปจับอาวุธ ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ เพราะฉะนั้นเพลงนี้นำไปสู่ความแตกแยกภายในชาติ แล้วสรุปท้ายด้วยการยึดอำนาจในช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ในวันนี้แม้ผู้บัญชาการทหารบกสั่งยกเลิกไม่ให้เปิดในสถานีวิทยุแล้ว แต่การเปิดเสียงตามสายตามที่ทำการของเหล่าทัพ ก็ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ณ วันนี้เราควรลดเงื่อนไขต่าง ๆ ขอเสนอให้ตามหาเพลงคืนความสุขมาเปิดแทน หรือไม่กล้าเปิด เพราะเพลงคืนความสุขฟ้องว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นความจริง ทำให้ตนคิดว่าอาจจะไม่มีเลือกตั้ง เพราะเมื่อได้ยินเพลงนี้ทีไร จะตามมาด้วยการรัฐประหารทุกครั้ง 

นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีใครสรุปได้ว่าจะไม่มีการรัฐประหารกันอีกแล้ว แม้รัฐธรรมนูญจะมีการเขียนเอื้อเรื่องสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. 250 เสียง สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แต่ตนก็เชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะไม่ได้เสียงมากเท่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะฉะนั้นพรรคพลังประชารัฐจะไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ในการเสนอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

"พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผิดคุณสมบัติในการถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากใช้มาตรฐานเดียวกันกับที่พยายามยุบอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ก็ควรยุบพรรคพลังประชารัฐด้วย ทั้งนี้ตนคิดว่าปรากฎการณ์ต่างๆ นั้น รวมถึงเรื่องเพลงหนักแผ่นดิน เป็นเพราะกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ยังเชื่อว่าสถานการณ์ของประเทศไทย ระหว่างมีหรือไม่มีการเลือกตั้งยัง 50 – 50 กันอยู่" นายจตุพร กล่าว  

นายจตุพร ยังระบุด้วยว่า การที่พลเอกประยุทธ์ เอาเปรียบคู่ต่อสู้ แต่เป็นการเอาเปรียบที่ไม่ชนะ สูญเสียความชอบธรรมที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อไม่ชอบธรรมแล้ว ประวัติศาสตร์ก็บอกว่า ถ้ายังเดินต่อไปก็ต้องจบด้วยคำว่าทรราชย์ อยากขอเตือนว่า วันเวลาของผู้มีอำนาจมีสองเส้นทางเสมอ คือลงอย่างคนปกติ กับลงอย่างทรราชย์ ท้ายที่สุดหลายคนมักจะเลือกเส้นทางทรราชย์เสมอ และจบไม่สวยสักคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :