กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร (16 ม.ค.) ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่จะถูกส่งมอบให้กับพลเรือนใน “พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเปราะบางที่สุด” ในฉนวนกาซา เพื่อแลกกับการส่งมอบยาให้กับตัวประกันชาวอิสราเอลที่กลุ่มฮามาสคุมขังอยู่ในฉนวนกาซา
มาเจด อัล-อันซารี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์กล่าวว่า ยาและความช่วยเหลือจะถูกส่งมอบไปจากกรุงโดฮาในวันพุธนี้ (17 ม.ค.) ไปยังเมืองเอล อาริช ของอียิปต์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขนส่งความช่วยเหลือเหล่านั้นไปยังฉนวนกาซา อัล-อันซารียังกล่าวอีกว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีตัวกลางในการเจรจาโดยกาตาร์ พร้อมกันกับความร่วมมือจากฝรั่งเศส
ก่อนหน้านี้ ฟิลิป ลาเยียต หัวหน้าศูนย์วิกฤตการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทำหน้าที่จัดระเบียบการส่งความช่วยเหลือ กล่าวว่าการเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นมาหลายสัปดาห์ และความคิดในการแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือเริ่มต้นมาจากครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลบางคน ทั้งนี้ ชุดความช่วยเหลือด้านการแพทย์จากฝรั่งเศส จะถูกส่งไปยังตัวประกันแต่ละคนจากทั้งหมด 45 คน โดยจะมีคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศเป็นผู้ประสานงานภาคพื้นดิน
ก่อนหน้านี้ ฮามาสได้จับตัวประกันจากอิสราเอลไปประมาณ 240 คน ระหว่างการโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,139 คน ในเวลาต่อมา อิสราเอลได้ตอบโต้การโจมตีด้วยการทิ้งระเบิด การปิดล้อม และการบุกรุกฉนวนกาซาทางภาคพื้นดิน ซึ่งส่งผลมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 24,000 ราย
มีตัวประกันมากกว่า 100 คนได้รับการปล่อยตัว ในระหว่างการหยุดยิงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ภายหลังการเจรจาอันยาวนานที่มีกาตาร์และสหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ในอีกทางหนึ่ง อิสราเอลได้ปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน ออกจากเรือนจำเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนตามข้อตกลง
เมื่อวันอังคาร ทำเนียบขาวแถลงว่า เบรตต์ แมคเกิร์ก ทูตประจำตะวันออกกลางของสหรัฐฯ เดินทางไปที่กรุงโดฮาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงที่เป็นไปได้สำหรับการปล่อยตัวนักโทษเพิ่มเติม
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แมคเกิร์กมีส่วนเกี่ยวข้องใน “การหารือที่จริงจังและเข้มข้นมาก” กับกาตาร์เกี่ยวกับอีกข้อตกลงหนึ่ง “เราหวังว่ามันจะเกิดผลและเกิดผลเร็วๆ นี้” เคอร์บีกล่าว
ที่มา: