ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกฯ ประเสริฐ เผย ดีอี ลุยปิดกั้นโซเชียลมีเดีย 9,500 URLs ทุกแพลตฟอร์ม ซื้อ-ขาย ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน เข้าไปเกี่ยวข้องมีโทษหนักตามกฎหมาย

วันที่ 21 มีนาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี ได้เร่งรัดดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับ “บุหรี่ไฟฟ้า” โดยเฉพาะ การปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ที่มีความเกี่ยวข้องทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการตัดวงจรช่องทางการซื้อ-ขาย และการลักลอบนำเข้า ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปราม ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ พร้อมกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2567 – 19 มีนาคม 2568 กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า แล้ว 9,515 รายการ โดยแบ่งเป็นแพลตฟอร์ม

- X จำนวน 9,226 รายการ

- เว็บไซต์ จำนวน 235 รายการ

- Facebook จำนวน 28 รายการ

- Instagram จำนวน 12 รายการ

- TikTok จำนวน 14 รายการ

นอกจากนี้ยังดำเนินการปิดกั้นกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า แล้วจำนวน 120 กลุ่ม ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบโดยใช้ Social listening tool พบว่า มีจำนวนโพสต์ซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้า โดยเป็นโพสต์จากผู้ขาย จำนวน 285 โพสต์ และโพสต์จากผู้ซื้อ จำนวน 93 โพสต์

นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอีจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง ตรวจสอบติดตามการซื้อ-ขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง และขอเตือนว่าบุหรี่ไฟฟ้าต่อผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและเยาวชน นอกจากนี้ยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย โดยผู้ใดขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 และ การซื้อหรือครอบครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับเป็นเงิน 4 เท่าของสินค้านั้น หรือทั้งจำทั้งปรับ และการนำเข้าของที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่สาธารณะหรือเขตปลอดบุหรี่ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท”