กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผย Roadmap สู่รัฐบาลประชาธิปไตยภายใน 10 เดือน ตามที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ว่าขอให้ 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย จับมือกันให้แน่นในการเลือกนายกรัฐมนตรี จนกว่า สว. ชุดนี้จะหมดวาระ และไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งอาจต้องรอ 10 เดือน
กัณวีร์ ระบุว่า การรอ สว. ปิดสวิชต์ตนเอง หรือหมดวาระไปตาม ม. 272 ไม่ถือเป็น “การรอ” ที่ “เสียเวลาเปล่า” เพราะภายใน 10 เดือนนี้ ประเทศยังเดินหน้าไปได้ เพราะมี “กลไกรัฐสภา” โดยจะมี 3 ขั้นตอนสำคัญที่สามารถทำได้ ประกอบด้วย
1. คณะทำงานภายใต้คณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน ต้องสานงานสร้างนโยบายเฉพาะในแต่ละด้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 2 - 3 เดือน ในการตกผลึกนโยบายที่สำคัญตาม MOU ที่ได้ลงนามกันไว้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาล นี่จะเป็นการเมืองใหม่ที่เอาความต้องการเร่งด่วนของพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง
2.ขอเสนอให้พรรคการเมืองร่วม 8 พรรค เช่นการจัดเวทีร่วมกันในการรับฟังข้อเสนอภาคประชาชนต่อกระบวนการทางนิติบัญญัติ คล้ายๆ ครม. สัญจร ซึ่งจะยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ในการจับมือร่วมกันของพรรคร่วมทั้ง 8 และรวมถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคประชาสังคม กระบวนการนี้จะใช้เวลาอีกประมาณ 4 - 5 เดือน
3.กลไกสภาต้องเร่งรัดพิจารณาร่างกฎหมายที่ค้างมาตั้งแต่สมัยที่แล้วและเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะร่างกฎหมายที่มาจาก สส. และประชาชนที่มีเป็นหลักร้อยกว่าร่าง อาทิ เร่งรัดการพิจารณากฎหมาย SLAP ของ ประชาชนให้ผ่านสภาฯ
กัณวีร์ ยอมรับว่าในระหว่างนี้รัฐบาลรักษาการ จะถูกจำกัดอำนาจบางส่วน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว เพราะจะได้ไม่ไปก่อความเสียหายอะไรต่อประเทศชาติให้มากไปกว่านี้ ซึ่งตามกฎหมายแล้วรัฐบาลรักษาการจะถูกจำกัดเรื่อง การอนุมัติโครงการ ที่ก่อภาระผูกพัน การแต่งตั้งโยกย้ายหรือถอดถอนบุคลากรของรัฐ และการอนุมัติการใช้จ่ายงบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
"ที่มีข้อกังวลเรื่องงบประมาณปี 2567 เรื่องนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จะล่าช้า และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ภายในเดือน มีนาคม 2567 โดยสามารถเลือกได้ว่าจะนำกรอบงบประมาณฯ และร่างงบฯ เดิมมาใช้ หรืออาจจะทบทวนทั้งฉบับก็ได้ ซึ่งถือเป็นอำนาจของรัฐบาลใหม่ ดังนั้นยังมีเวลาเรื่องงบประมาณครับ"
กัณวีร์ ย้ำว่าสามารถทำอะไรได้มากมายในช่วง 10 เดือนนี้ และความน่าเชื่อถือจะยิ่งมากขึ้นหาก 8 พรรคร่วมทำสิ่งต่างๆ ได้ตาม Roadmap ที่กล่าวไว้ข้างต้น และเมื่อมีรัฐบาลที่มาจากประชาชนแล้ว เจ้าของอำนาจที่แท้จริงจะสามารถกำหนดทิศทางการพัฒนาและการเมืองตนเองได้
ซึ่งประเทศไทยจะมีความร่วมมือทางการลงทุนกับต่างชาติอย่างเกินความคาดหมาย การขยายฐานการผลิตและการพัฒนาทักษะอาชีพของพี่น้องประชาชนจะได้รับการตอบสนองอย่างทวีคูณ ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคจะสามารถมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางความต้องการประจำถิ่น และท้ายสุด ประเทศไทยจะมีจุดยืนแห่งการเป็นผู้นำในเวทีระหว่างประเทศอย่างสง่าผ่าเผย
"รอเถอะครับ จับมือกันให้แน่น ทั้ง 8 พรรค อนาคตประเทศและประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริงรอพวกเราอยู่ครับ ร่วมกันเดินไปสู่เส้นทาง รัฐบาลประชาธิปไตย ให้สำเร็จครับ" กัณวีร์ กล่าวย้ำ