ผลสำรวจผู้หญิงกว่า 12,000 ในสายอาชีพนักพัฒนาซอฟต์แวร์กว่า 100 ประเทศทั่วโลก พบว่า คนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งถูกนับเป็นกลุ่มเจเนอเรชั่น Z หรือชาวมิลเลนเนียล เข้าไปทำงานในสายงานเทคโนโลยีในนครซานฟราสซิสโกของสหรัฐฯ น้อยลงกว่าคนในเจนเนอเรชันก่อนหน้านี้ ทั้งที่ 'ซิลิคอนแวลลีย์' ในซานฟรานซิสโก ถูกยกย่องว่าเป็นแหล่งรวมคนทำงานและเป็นสถานที่ที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในสายงานเทคโนโลยี

ทั้งนี้ ในผลสำรวจยังระบุว่า กลุ่มคน 'เจน Z' มองว่า 'เซี่ยงไฮ้' หนึ่งในมหานครของจีนจะเป็นเมืองที่กลายเป็นศูนย์กลางทางด้านเทคโนโลยีภายใน 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ผู้ที่ตอบแบบสอบถามจากเอเชียแปซิฟิกจำนวน 14 เปอร์เซ็นต์เห็นว่า เมืองบังกาลอร์ของอินเดียจะกลายเป็นศูนย์กลางทางด้านไอทีแทนซิลิคอนแวลลีย์ในอนาคต

แม้ว่าผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ที่เป็นคนวัย 20 ต้น ในกลุ่มเจน Z และมิลเลนเนียมจะเห็นพ้องว่า ซิลิคอนแวลลีย์ในซานฟรานซิสโกจะยังคงเป็นศูนย์กลางของสายงานทางด้านเทคโนโลยีจนกระทั่งถึงปี 2024 แต่ในอนาคตระยะยาวศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาจถูกย้ายออกจากซิลิคอนแวลลีย์ เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประการรุ่นใหม่ย้ายไปเมืองอื่น หรือไปแสวงหาโอกาสในเมืองอื่นๆ ของสหรัฐฯ

นอกจากในสหรัฐแล้ว 'จีน' และ 'อินเดีย' ยังเป็น 2 ประเทศที่พัฒนาทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างหนักเพื่อดึงดูดการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลก

มาเรีย ชุง รองประธานของ Hacker Rank กล่าวว่า ในปี 2018 ที่ผ่านมา สตาร์ทอัพในจีนมีผู้ร่วมลงทุนมากกว่าเม็ดเงินลงทุนสตาร์ทอัพที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ขณะที่เมืองบังกาลอร์ของอินเดียก็ก้าวขึ้นเป้นหนึ่งในเมืองที่มีสตาร์ทอัพเกิดขึ้นมากที่สุดของอินเดีย และเป็นลำดับที่ 3 ของโลก ปัจจุบันประชากรอินเดียกว่า 50เปอร์เซ็นต์มีอายุเฉลี่ย 25 ปี หรืออ่อนกว่า และคาดว่าในปี 2023 อินเดียจะเป็นประเทศที่มีประชากรในสายงานด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก

ที่มา CNBC

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เซินเจิ้น：เมืองแห่งโอกาสของสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ในจีน
• เซินเจิ้น : จากหมู่บ้านชาวประมงสู่ 'ซิลิคอนวัลเลย์' จีน