วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เพจเฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ได้พบหารือกับ Eli Cohen รมว.ต่างประเทศรัฐอิสราเอล ที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล โดยปานปรีย์แสดงความยินดีที่อิสราเอลและฮามาสสามารถบรรลุผลสำเร็จในการเจรจาเพื่อขยายระยะเวลาการหยุดยิงเพื่อเหตุผลทางมนุษยธรรมออกไปอีก 2 วัน และขอบคุณฝ่ายอิสราเอลที่ดูแลคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 17 คน โดยขอให้อิสราเอลพยายามดำเนินการเพื่อปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันโดยเร็วที่สุด

ขณะที่ รมว.ต่างประเทศอิสราเอลแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของคนไทยรวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกล่าวว่า ฝ่ายอิสราเอลให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับไทย และจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยทั้งหมดต่อไป ขณะเดียวกัน อิสราเอลจะให้สิทธิและสวัสดิการทางสังคมแก่คนไทยที่ได้รับผลกระทบทุกคน เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราเอลได้รับ และหวังว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น คนไทยจะกลับมาทำงานในอิสราเอลเหมือนเดิม เพราะเป็นกำลังสำคัญของภาคการเกษตรและเศรษฐกิจของอิสราเอล ทั้งนี้ ปานปรีย์ฝากให้อิสราเอลดูแลแรงงานไทยที่ยังทำงานอยู่ในอิสราเอล ทั้งในด้านความปลอดภัย และในด้านสิทธิ์และสวัสดิการต่างๆที่แรงงานไทยพึงได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปานปรีย์ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์หรือ X "@drparnpreeb" หลังได้พบกับคนไทยที่ได้รับปล่อยตัว ว่า ตื้นตันใจและดีใจเป็นที่สุดที่ได้เจอพี่น้องคนไทยที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาครับ ทุกคนมีกำลังใจดี พร้อมเดินทางกลับบ้านแล้วครับ

กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์หรือ X ของกระทรวงฯ "@MFAThai" ว่า ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ได้เยี่ยมคนไทย 17 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในประเทศอิสราเอล โดยมี Eli Cohen รมว.ต่างประเทศอิสราเอล และ Uriel Menachem Buso รมว.สาธารณสุขอิสราเอล ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ ปานปรีย์ได้ให้กำลังใจและติดตามการดูแลรักษาคนไทยที่อยู่ที่โรงพยาบาล Al Shamir โดยให้คำมั่นว่าจะนำคนไทยที่พร้อมเดินทางกลับประเทศไทยสู่อ้อมกอดของญาติพี่น้องโดยเร็วที่สุด