นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงาน 'ชัชชาติชวนคุย คนกรุงเทพฯ ช่วยคิด' ว่า ไม่ได้ถือว่าเปิดตัว แต่มาแสดงเจตจำนงและจุดยืนจะลงรับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามอิสระ ซึ่งกลุ่มคนที่มาในวันนี้ ไม่ใช่กลุ่มคนที่สนับสนุนแต่เป็นคนกรุงเทพมหานครทุกคนที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะคิดว่างานในกรุงเทพทั้งหมดต้องอาศัยแนวร่วมเป็นจำนวนมาก และการลงในนามอิสระจะทำให้หาแนวร่วมได้มากขึ้น เพราะจากการออกไปพูดคุยสอบถามมีคนจำนวนมากเบื่อการเมือง และอยากจะมาช่วยกันเดินหน้าประเทศให้ดีขึ้น 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนในลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ แต่เหตุใดมาลงในนามอิสระ นายชัชชาติ ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง เพราะเชื่ออว่าลงในนามอิสระ เนื่องจากคนเบื่อการเมืองที่ขัดแย้ง และอยากจะหาคนเก่งมาร่วมงาน โดยตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาก็ได้ทำการบ้านลงพื้นที่ เพื่อหาแนวทางมาพัฒนากรุงเทพ จึงไม่ทราบว่าการลงในนามอิสระครั้งนี้อาจจะคิดผิดก็ได้ ซึ่งการลงอิสระคือทางเลือกหนึ่ง โดนยืนยันไม่ได้ขัดแย้งกับพรรค เพราะอยากจะมาดูแลกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้คิดถึงการชนะเลือกตั้ง แต่คิดว่าจะทำงานให้ดีที่สุดด้วยแนวทางใดมากกว่า เพราะการลงในนามอิสระทำให้เกิดความคล่องตัวในการประสานงาน

ทั้งนี้ต่อจากนี้จะต้องทำโพล ว่า ไปรอดไหม หากออกมาทางลบก็จะมาคิดใหม่ จึงต้องรอดูภาพรวมก่อน แต่หากไม่ได้รับเลือกก็ยังคงพร้อมทำงานต่อไป เหมือนกับการจัดงานวันนี้ ที่มารับฟังเสียงของคนกรุงเทพ ไม่ได้ปิดตายกับพรรคเพื่อไทย ส่วนเงินที่จัดงานในวันนี้ไม่เกี่ยวกับเงินพรรค หรือเงินส่วนตัว แต่เป็นเงินของแนวร่วม โดยการเปิดตัวลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนี้ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว และอธิบายเหตุผลไปแล้ว 

ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่พอใจที่ลงในนามอิสระ ส่วนตัวไม่ทราบ แต่ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยก็มีจุดดีเยอะและบางแนวคิดก็ได้นำมาใช้ในวันนี้  ทั้งนี้ ไม่รู้สึกกังวล ว่าเปิดตัวก่อนจะเสียเปรียบเพราะทุกอย่างอยู่ที่ประชาชน ส่วนใครจะลอกนโยบายก็ได้ เพราะหัวใจของคนกรุงฯ ไม่ใช่ กทม.แต่อยู่ที่ประชาชนร่วมมือกัน ส่วนวันนี้จะเรียกว่าหาเสียงก็ถือว่าเร็วไป แต่หากได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มั่นใจว่าจะเปลี่ยนกรุงเทพในระยะเวลาอันสั้น

นายชัชชาติ ยังกล่าวว่า แคมเปญนี้จะยังคงมีอีก เช่น ขยะ ความโปร่งใส ที่จะลงรายละเอียดเพิ่มขึ้น และจะทำไปเรื่อยๆ จนเลือกตั้ง และแม้แพ้เลือกตั้งก็จะทำต่อ เพราะอยากปลุกให้ประชาชนตื่นรู้ โดยกิจกรรมในครั้งนี้นั้น มีการรับสมัครสมาชิก อาสาสมัครที่สนใจมาเข้าร่วมช่วบการแก้ปัญหากรุงเทพฯ เพราะในกรุงเทพฯมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องนำมาพัฒนาให้เป็นนโยบายและสร้างให้เกิดความเป็นรูปธรรมขึ้นมาซึ่งปัญหาของกรุงเทพนั้นหัวใจหลักคือประชาชนต้องมีส่วนร่วมอย่างกะตือรือร้น ขณะเดียวกันต้องมีภาครัฐที่เข้มแข็งผู้นำและนโยบายที่ชัดเจน เข้าใจในปัญหามีความโปร่งใสและสามารถร่วมมือกับทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี หวังว่าการจัดงานครั้งนี้ทุกคนได้มาร่วมเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกัน และนำไปสู่การสร้างความหวังให้ดีขึ้น

นายชัชชาติ ระบุกับสื่อมวลชนตอนท้ายว่า ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว