ไม่พบผลการค้นหา
แกนนำพรรคเพื่อไทย เตรียมร่อนหนังสือเชิญรัฐมนตรีคมนาคม-ผู้ว่าการรถไฟฯ ถกร่วมผู้ค้าจตุจักร หลังเดือดร้อนหนักจากโควิด-19 และค่าเช่าแผง

​คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือและการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.ของพรรค ลงพื้นที่ตลาดจตุจักร เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาความเดือดร้อน จากกลุ่มสหกรณ์ผู้ค้า และผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร

โดยตลาดนัดจตุจักรมีผู้เช่าอยู่ประมาณ 10,300 แผง ขณะที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. มีแผนพัฒนาและลงทุนในพื้นที่และให้ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการแผงค้าขาย ส่งเงินให้ รฟท. ราว 169 ล้านบาทต่อปี โดยให้ กทม.คิดค่าเช่า 900 บาท, 1,400 บาท และ 1,800 บาท ต่อแผงต่อเดือน ตามแต่ละโครงการ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยผู้ค้าบางส่วนได้จ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้ว แต่บางส่วนยังไม่ได้ดำเนินการ และมีการเข้ายื่นเรื่องต่อ กมธ.ตรวจสอบเงินกู้ 1.9 ล้านบาท ฟื้นฟูผลกระทบโควิด-19 เกี่ยวกับผลกระทบโควิด-19 ก่อนหน้านี้ด้วย

โดยกลุ่มผู้ค้า ต้องการให้หน่วยวานที่เกี่ยวข้องทั้ง กทม.และ รฟท.ช่วยลดค่าเช่าแผง รวมถึง ดอกเบี้ยและค่าปรับที่ผู้ค้าติดค้างด้วย

ส่วนตัวแทนผู้บริหารตลาดจตุจักร กล่าวถึงรายได้ของตลาดจตุจักรที่หดหายไป นอกจากเก็บค่าเช่าไม่ได้เเล้ว ยังมีผู้ยกเลิกสัญญาเช่าหลายราย พร้อมอธิบายเงื่อนไขทั้งตามมติ ครม.และ MOU ระหว่าง รฟท.กับ กทม. เกี่ยวกับการบริหารจัดการตลาดจตุจักร ซึ่งเฉลี่ยแล้ว ตลาดจตุจักรต้องส่งเงินให้ กทม.เพื่อจ่ายให้ รฟท.เดือนละ 14 ล้านบาทเศษ โดยยกตัวอย่างค่าแผงที่แพงที่สุดคือ 1,800 แบ่งไว้บริหารจัดการในตลาด 450 บาท ส่งให้ รฟท. 1,350 บาท แทบไม่เหลือกำไร บางเดือนตลาดจตุจักรมีกำไรเพียง 20,000 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากกับการบริหารพื้นที่กว่า 70 ไร่

เผดิมชัย ในฐานะกรรมาธิการศึกษาวิสามัญพิจารณา ติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  หรือ กมธ.ติดตามเงินกู้ฯ กล่าวว่า กลุ่มผู้ค้าได้ร้องเรียนใน 3 ประเด็น ได้แก่

1.) ยุติฟ้องร้องผู้ค้าที่ติดค่าเช่าแผง

2.) ยกเว้นดอกเบี้ยและขอผ่อนชำระเงินต้น หลัง รฟท.ยอมยกเว้นดอกเบี้ย แต่ให้จ่ายเงินต้นในคราวเดียว

3.) ผู้ค้าที่จ่ายทั้งต้นและดอกแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยา หรือให้ กทม.ลดเงินต้นให้จากยอดดอกเบี้ยที่จ่ายไป

เผดิมชัย รับปากว่าจะนำขอเสนอเพิ่มเติมในวันนี้เข้าที่ประชุม กมธ.ติดตามเงินกู้ฯ ในวันอังคารที่ 16 พ.ย.นี้

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า วิสัยทัศน์ผู้บริหารต้องเน้นดูแลประชาชน ไม่มุ่งแสวงหากำไรอย่างเดียว พร้อมเน้นย้ำถึงจุดเด่นของตลาดจตุจักรที่มีความแตกต่างจากตลาดอื่นๆ เพราะเป็นที่รวมของสินค้าชุมชนทั้งจากวิสาหกิจชุมชนและชาวบ้าน ดังนั้นการดูแลเชิงการค้าอย่างเดียวไม่เพียงพอต้องส่งเสริมหรือดึงผลิตภัณฑ์จากชุมชนมาขายด้วย นอกจากนี้ผู้ที่รับสินค้าเหล่านี้มาขาย ควรได้รับสิทธิพิเศษจากภาครัฐ อย่างน้อยก็จากเงินกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือมี 2 ระดับคือ หนึ่งในชั้นกรรมาธิการ และสอง ดิฉันจะประสานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าการรถไฟฯ เพื่อนำไปสู่การนัดประชุมร่วมกัน 3 ฝ่ายกับกลุ่มผู้ค้า นำสู่การคลี่คลายปัญหา และหากผู้มีอำนาจไม่ยอมมาประชุม กลุ่มผู้ค้าอาจจะ "พาม็อบไปเยี่ยม"