สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘ไคลีย์ เจนเนอร์’ เซเลบริตี้อเมริกันชื่อดังวัย 22 ปี เจ้าของแบรนด์ ‘ไคลีย์ คอสเมติก’ ขายหุ้นบริษัทถึงร้อยละ 51 ในมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท ให้กับ ‘โคตี้’ บริษัทเครื่องสำอางในนิวยอร์คที่เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางหลายยี่ห้อ อย่างไรก็ตาม ในสัญญาซื้อขายดังกล่าว ไคลีย์ จะยังนั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการด้านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อยู่

ในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (18 พ.ย.) ที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัท กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยให้ ไคลีย์ คอสเมติก สามารถขยายฐานการขายไปในระดับโลกได้มากขึ้น รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้แบรนด์ก้าวเข้าไปในสนามผลิตภัณฑ์ความงามอื่นๆด้วย

‘ไคลีย์’ กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ฉันและทีมงานสามารถโฟกัสอยู่กับการผลิตและพัฒนาสินค้าแต่ละตัวได้ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างแบรนด์ให้กลายเป็นแหล่งรวบรวมผลิตภัณฑ์ความงามระดับนานาชาติ”

ขณะที่ 'ปิแอร์ ลอบีย์' ซีอีโอของโคตี้ กล่าวว่าการควบรวมครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทตนมีความเข้มแข็งมากขึ้นในสินค้าทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง และครีมบำรุง โดยสัญญาครั้งนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2563

อิทธิพลบนโลกออกไลน์

ที่ผ่านมา ไคลีย์ ใช้ความโด่งดังของเธอบนโลกออนไลน์ ด้วยตัวเลขผู้ติดตามอินสตาแกรมถึง 150 ล้านบัญชีและผู้ติดตามในทวิตเตอร์สูงถึง 30 ล้านบัญชี เป็นเครื่องมือทำการตลาดมาตลอด ซึ่งสิ่งผลให้นิตยสารฟอร์บสยกย่องให้เธอเป็นมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลกประจำปี 2561 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 10,800 ล้านบาท

ขณะที่ตัวเลขรายได้จากแบรนด์เครื่องสำอางของเธอในปี 2561 มีรายได้สูงถึง 177 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 5,300 ล้านบาท

ไม่เพียงแต่เธอจะมีอิทธิพลกับแบรนด์ตัวเอง ไคลีย์ยังมีอิทธิพลเหนือแบรนด์โซเชียลมีเดียอื่นๆด้วย เพียงทวีตข้อความเดียวของเธอที่ประกาศว่าเธอเลิกใช้แอปพลิเคชัน 'สแนปแชท' ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทตกลงทันทีถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 39,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันการประกาศขายหุ้นให้กับ 'โคตี้' ก็ส่งผลให้หุ้นของบริษัทโคตี้พุ่งขึ้นทันทีถึงร้อยละ 4

อ้างอิง; CNN, BBC