แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านนำโดย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง, เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน, หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ พร้อมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อส่งบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบการพิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
โดยประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้ได้ยื่นเอกสารทั้งหมด 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นคำร้องทั่วไปเพื่อให้ศาลพิจารณาอนุญาตรับบันทึกถ้อยคำในการแสดงความคิดเห็นของตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด ส่วนฉบับที่ 2 เป็นหนังสือเกี่ยวกับการบันทึกถ้อยคำรายละเอียด ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ขณะนี้การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ผ่านการพิจารณาในวาระ 2 แล้ว และคาดว่าวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ หากไม่มีอะไรติดขัดก็จะมีการพิจารณาในวาระ 3 แต่กลับมีกรณีนี้ ดังนั้นฝ่ายค้านจึงต้องทำคำร้องมาเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฅธรรมนูญด้วย เพื่อให้ทันก่อนที่จะมีการพิจารณาโหวตในวาระ 3 พร้อมคาดหวังว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาก่อนจะเข้าสู่วาระ 3
ประเสริฐ ยังกล่าวต่อว่า หากการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ไม่สามารถเดินต่อไปได้ ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่มีการพูดคุยกันเพราะคาดหวังว่ารัฐสภาน่าจะผ่านวาระ 3 ได้เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระที่มีความสำคัญและประชาชนก็ได้มีการเรียกร้องมาโดยตลอดซึ่งรัฐสภาเป็นตัวแทนของประชาชนก็ควรจะเห็นด้วยกับการผ่านวาระ 3
นอกจากนี้นายประเสริฐ ยังได้กล่าวถึงกรณีการยื่นตรวจสอบ คณะรัฐมนตรีหลังจากที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ในวันพุธที่ 10 มีนาคมนี้ ตนจะเดินทางไปยื่น ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) เพื่อขอให้ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในกรณีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามความผิดมาตรา 157 และจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในกรณีการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยาง
ด้านชัยธวัช กล่าวยืนยันว่า รัฐสภามีอำนาจและไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ โดยคดีดังกล่าวไม่ควรยื่นมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยด้วยซ้ำ