ไม่พบผลการค้นหา
ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านฯ จี้นายกฯ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวั่นซ้ำเติมเศรษฐกิจประเทศ ชี้ไม่ยกเลิกเป็นการรักษาอำนาจตัวเอง แนะใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคระบาดแทน

วันที่ 17 พ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า รัฐบาลต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันทีก่อนที่เศรษฐกิจประเทศจะล้มละลาย เกินเยียวยา ยื้อไว้ทำไมเพื่อประโยชน์ตนหรือเพื่อประชาชน วันนี้ตัวเลขการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย อยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ค่อนข้างดีมาก แต่โรคภัยทางเศรษฐกิจที่ผู้คนในประเทศนี้กำลังเผชิญ นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ภาพเชิงประจักษ์ที่ดีที่สุดซึ่งอธิบายได้ดีกว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจไหนๆ คือ ภาพที่ผู้คนจำนวนมากมายต่อแถวเพื่อยื่นเรื่องขอทบทวนสิทธิ์ในการรับเงินช่วยเหลือจากรัฐ 5,000 บาท และภาพของการเข้าคิวเพื่อรอรับบริจาคอาหาร รวมถึง ข่าวตัวเลขของการฆ่าตัวตายอันเนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่พุ่งสูงขึ้น นี่คือภาพสะท้อนความจริงทางเศรษฐกิจที่เป็นยอดของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งทุกฝ่ายตระหนักดีว่า ปัญหานั้น มีความรุนแรงเพียงใด

นายภูมิธรรม ระบุว่า วิธีการแก้ปัญหาส่วนหนึ่งของรัฐบาลคือการ ออก พ.ร.ก.เงินกู้ จำนวนมหาศาล เพื่อมาแก้ไขเยียวยาปัญหา ซึ่งยังต้องตั้งข้อสังเกตถึงแผนการใช้จ่ายเงินที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่คืนคุณค่ากลับมาได้จริง ตนมีความเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลควรต้องทำอย่างเร่งด่วน คือ การยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อเร่งคลายล็อคให้การดำเนินเศรษฐกิจในประเทศ ได้ลื่นไหลไปตามระบบกลไกปกติ

"วันนี้สังคมไทยกำลังจ่ายต้นทุนที่แพงมาก หากจะยังคงยืนยันใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อเนื่องไปอีก ด้วยข้ออ้างในการควบคุมการระบาดของโควิด ทั้งๆที่มีกฎหมายซึ่งเกี่ยวข้อง อย่างเช่น พ.ร.บ. ควบคุมโรคระบาด ก็สามารถนำมาใช้ให้มีผลในการควบคุม ป้องกันโรคได้ ไม่แตกต่างกัน เพราะหากยังคงพ.ร.ก. ฉุกเฉินไว้ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลงมากแล้ว นอกจากไม่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโอกาสทางเศรษฐกิจแล้ว รัฐบาลต้องตอบคำถามถึงนัยยะที่ซ่อนอยู่ของการควบคุมอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวทางสังคม"

นายภูมิธรรม ระบุว่า หากรัฐบาลอาศัยเงื่อนไขพ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของคณะตน โดยพยายามดิ้นรนรวบอำนาจการบริหารมาอยู่ที่นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว อำนาจนี้จะกลับกลายมาเป็นเครื่องมือ ที่กัดเซาะและบ่อนทำลาย ภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ และที่สำคัญจะกลายเป็น ปัจจัยที่เสริมสร้างความยากลำบากและปิดกั้นโอกาสในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชนมากขึ้น นายกรัฐมนตรีอย่าคิดสั้นๆ อย่าเห็นแต่ประโยชน์เฉพาะหน้ามุ่งรักษาแต่อำนาจของตน รีบปลดล็อกยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินก่อนที่เศรษฐกิจของประเทศ จะหายนะ จนเกินเยียวยา