วันที่ 16 พ.ค. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อจัดการเลือก สว. ปี 2567 ว่า วันนี้ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ที่มีส่วนสำคัญในการกำกับดูแลการเลือก สว.ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มาทำความเข้าใจกัน ซึ่งตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมยืนยันว่า เรื่องการเลือก สว. ในการเป็นคนการเมืองจะต้องมีความเป็นกลางอย่างแน่นอน เพราะไม่มีเรื่องของพรรคการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ตนจะขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทำหน้าที่เป็นกลางอย่างเต็มที่ ซึ่งภารกิจสูงขนาดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักที่กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการ จึงต้องทำให้มั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ และเพื่อให้ได้สมาชิกวุฒิสภาที่มีคุณภาพ ช่วยกันตรวจสอบและคานอำนาจกัน ทำให้เกิดความมั่นคงในระบบรัฐสภาของไทย
ส่วนที่สังคมจับตาเรื่องความเป็นกลางของเจ้าหน้าที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้อย่างไรนั้น อนุทิน กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอทุกคน เป็นข้าราชการประจำ โดยภารกิจและหน้าที่ก็ต้องมีความเป็นกลางอยู่แล้ว ซึ่งภารกิจมีหน้าที่มีหน้าที่คอยกำกับดูแล ให้เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งผู้สมัครเองก็ต้องหาคนที่ดีที่สุด และคัดเลือกเข้ามา เพื่อทำหน้าที่ และด้วยกระบวนการก็ถูกบังคับให้เป็นกลางอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ว่าฯนายอำเภอและ กกต.จะต้องพยายามทำให้เกิดความราบรื่นให้ได้มากที่สุด
"กระบวนการนี้จะต้องคัดเลือกมาทีละกลุ่มจากแสนคนให้เหลือหลักร้อย และมีโอกาสที่จะมีคำร้องเรียน ดังนั้นหากไม่มีความเป็นกลาง และไม่สามารถอธิบายได้ก็จะทำให้กระบวนการยิ่งมีความล่าช้าออกไป หรือทำแล้วไม่ถูกต้อง หากเกิดการร้องเรียน 2,000 กรณี ก็ตายกันพอดี ดังนั้นต้องมั่นใจว่ากระบวนการทุกอย่างทุกขั้นตอน ต้องเป็นไปได้ความบริสุทธิ์ยุติธรรม"
สำหรับกรณีที่พบว่าเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลางจะมีการคาดโทษอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า "ผู้ว่าฯ C10 นายอำเภอ C9 และไม่มีเหตุจูงใจใดๆที่จะต้องไปทุจริต หรือจะทำอะไรที่เกิดประโยชน์กับพวกเขา เฉพาะตัวผู้สมัครเองก็เป็นแสนคนแล้ว ทุกคนก็เฝ้าระวังด้วยตนเอง โอกาสที่จะไปตุกติกก็คงไม่เกิดขึ้น เราต้องเชื่อมั่นในผู้ว่าราชการจังหวัดของประเทศไทย เพราะคือพ่อเมือง CEO ของจังหวัด และนายอำเภอนายอำเภอทั้งหลายก็เป็นนักปกครอง ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ก็คงจะไม่ยอม หากจะไปเล่นเส้นเล่นสาย ดังนั้นตนจึงไม่กังวลในเรื่องนี้"
"ที่ประชุมวันนี้ต้องการประชุมเพื่อให้ผู้ว่าทั้งหลายได้เกิดความสบายใจว่าโปร่งใสลูกเดียว ตรวจสอบได้และทำเพื่อบ้านเมือง ซึ่งเปรียบเสมือนว่าความรับผิดชอบถ้ามีความชอบก็อยู่ที่ผู้ว่ามีความผิดก็อยู่ที่ผู้ว่า ซึ่งท่านทั้งหลายก็จะเลือกความชอบ ในการทำภารกิจที่สำคัญนี้ของบ้านเมือง กี่ปีถึงจะได้ทำที ทำในครั้งนี้ไม่มีผู้ว่าคนไหนเหลืออยู่แล้วทำครั้งต่อไปแล้ว เพราะ สว. เทอม 1 ตั้ง 5 ปี สงสัยผู้ว่าก็ 55 มั้ง"
อนุทิน ยังปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่ไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้านเยี่ยมใต้กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีนี้ อนุทิน กล่าวว่า ขอไปเปิดงานก่อน จากนั้นก็เดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที