จากรายงานของ UNHCR ประชาชนส่วนใหญ่ที่ลี้ภัยสงครามในยูเครนครั้งนี้ ใช้ 1 ใน 12 ช่องทางผ่านทางพรมแดนโปแลนด์กับยูเครน ซึ่งมีรายงานตัวเลขผู้ลงทะเบียนลี้ภัยแล้วในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่่ผ่านมา (27 ก.พ.) แล้วกว่า 156,000 คน ในขณะที่ประชาชนยูเครนบางส่วนลี้ภัยออกจากประเทศผ่านทางพรมแดนของยูเครนกับโรมาเนีย ฮังการี สโลวาเกีย และมอลโดวา โดยปลายทางของผู้ลี้ภัยมักเป็นประเทศในสหภาพยุโรป
ประชาชนชาวยูเครนส่วนใหญ่ที่อพยพออกนอกประเทศเป็นผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ หลายคนขนข้าวของเครื่องใช้ของตนเองด้วยกระสอบ ถุงพลาสติก และกระเป๋าเดินทาง เด็กหลายคนถือของเล่นมากับตัว หลายคนอุ้มสัตว์เลี้ยงของตัวเองมาด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้อพยพต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้า แต่พวกเขาได้รับการต้อนรับจากประเทศรองรับอย่างอบอุ่น หลายรายได้พบกับญาติของตนเองในประเทศปลายทางอีกครั้ง
รายงานภายในสหภาพยุโรประบุว่า บริเวณชายแดนของยูเครนมีรถติดยาว รวมถึงการใช้เวลาข้ามพรมแดนไปยังโปแลนด์นานกว่า 70 ชั่วโมง และ 7 ชั่วโมงในข้ามพรมแดนไปยังสโลวาเกีย ในขณะที่ประชาชนชาวยูเครนที่ตัดสินใจลี้ภัยหลายคนต้องนอนหลับอยู่บนรถ ท่ามกลางอากาศติดลบในยามค่ำคืน
ในบริเวณพรมแดนมีคำสั่งให้หยุดชายอายุ 18-60 ปี ที่กำลังจะข้ามพรมแดน ในขณะที่ทางการโปแลนด์พยายามเปิดรับผู้อพยพให้ลี้ภัยประเทศของตนเองเข้ามายังโปแลนด์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทั้งนี้ แต่เดิมมีประชากรชาวยูเครนอาศัยอยู่ในโปแลนด์แล้วอย่างน้อย 1.5 ล้านคน โดยโปแลนด์และยูเครนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองมาโดยตลอด
สื่อของโปแลนด์และเยอรมนีรายงานพบผู้ชายที่พยายามนำลูกและภรรยาของตนเองมาส่งให้ใกล้กับพรมแดนยูเครนให้มากที่สุด เพื่อเตรียมให้ภรรยาและลูกของตัวเองลี้ภัยออกไปจากยูเครน ชายหลายรายกอดครอบครัวของตนเองก่อนส่งข้ามพรมแดนไป ก่อนที่ตนเองจะเดินทางกลับเข้ายังฝั่งยูเครนเพื่อเข้าร่วมรบปกป้องประเทศของตนเอง
ในพรมแดนโปแลนด์ มีประชาชนชายชาวยูเครนหลายรายกำลังรอเดินทางกลับเข้าไปยังยูเครนอีกครั้ง เพื่อเข้าร่วมรบต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย ทั้งนี้ ตามชายแดนมีการติดตั้งค่ายรองรับผู้ลี้ภัยในเบื้องต้นเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ในขณะที่ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปกำลังหารือเพื่อหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนแล้ว
ทางการยูเครนคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ลี้ภัยของประเทศตนเองอาจพุ่งสูงขึ้นถึง 4.5 ล้านรายได้ หากการต่อสู้ระหว่างยูเครนกับรัสเซียยังคงเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ดี ในวันนี้จะมีการหารือพูดคุยระหว่างคณะผู้แทนของยูเครนกับคณะผู้แทนของรัสเซียบริเวณชายแดนยูเครน-เบลารุส เพื่อหาทางออกจากวิฤตในครั้งนี้
ที่มา: