ไม่พบผลการค้นหา
"ประชาชนในอีสาน เสียงเขาไม่ดัง ถ้าชาวบ้านเสียงไม่ดัง ผู้แทนต้องเสียงดัง ชาวบ้านเรียนรู้ไม่มาก ผู้แทนต้องรู้มาก ชาวบ้านกลัว ผู้แทนต้องไม่กลัว เพราะฉะนั้น อยากจะมาถึงจุดนี้ พอได้เป็นดาวสภา ดาวเด่น ประสบความสำเร็จสูงนะ"

'สุทิน คลังแสง' ส.ส.มหาสารคาม เขตเลือกตั้งที่ 5 รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในวัย 61 ปี ระบุผ่าน #VoicePolitics ถึงสถานะของคนอีสานในวันนี้ ที่เขายังต้องเป็นปากเป็นเสียงให้ชาวบ้านชนชั้นรากหญ้าในสภาผู้แทนราษฎร

ดร.สุทิน จบการศึกษาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ Doctor of Philosophy MAGADH UNIVERSITY ประเทศอินเดีย

ขุนพลอีสานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประสบการณ์ผู้แทนราษฎร 4 สมัย รับบทมือปิดสรุปอภิปรายในสภาฯ ได้รับการเลือกจากสื่อมวลชนประจำรัฐสภา ให้เป็นดาวเด่น ดาวสภาฯ ปี 2563 ด้วยลีลาน้ำเสียงอภิปรายด้วยข้อมูลและสะกดคนฟังอย่างสุภาพบุรุษคนอีสาน

ดร.สุทิน ผ่านการเป็น ส.ส.มา 4 สมัย โดย 2 สมัยแรก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ปี 2544 และ ปี 2548

สมัยที่ 3 เป็น ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน แต่เมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2551 ทำให้ 'สุทิน' ต้องติดโทษแบนทางการเมือง หมดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 5 ปี

สุทิน คลังแสง VoicePolitics Logo_001.jpg

เวลาล่วงเลยพ้นโทษแบนทางการเมือง แต่แล้ววงจรอุบาทว์รัฐประหารเมื่อปี 2557 ทำให้ 'สุทิน' ต้องรอเวลาถึง 11 ปี ถึงมีโอกาสกลับมาเป็น ส.ส.สมัยที่ 4 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย

"ทางเดียวที่คนอีสานจะมีความเท่าเทียมต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยตัวเอง ถ้าประชาชนเข้มแข็ง ตระหนักในสิทธิเสรีภาพ ก็จะได้นักการเมืองที่เข้มแข็ง นักการเมืองที่เข้มแข็งก็จะนำมาซึ่งประชาธิปไตย ประชาธิปไตยซึ่งทำให้ทุกคนเท่าเทียม" ดร.สุทิน บอกกับ #VoicePolitics

ยิ่งใกล้เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยเดินสายหาเสียง เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ครั้งหนึ่ง 'สุทิน' เคยขึ้นปราศรัยเปิดเวทีของพรรคเพื่อไทย ที่ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี เมื่อ 15 ม.ค. 2566 ตอนหนึ่งว่า "น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก นรกจะเป็นของคนหน้าด้าน คนอีสานเป็นของเพื่อไทย ถูกไหมครับ"

"มึงยุบเพื่อไทย กูตั้งเพื่อเธอ ยุบอีกใหญ่กว่าเดิม ยุบอีกใหญ่กว่าเดิม ถูกไหมครับ" สุทิน ปราศรัยเป็นภาษาอีสานบอกกับประชาชนที่มาฟังแน่นลานทุ่งศรีเมือง ในวันนั้นโดยไม่สยบยอมต่ออำนาจนอกระบบ

ระหว่างเข้าสู่ช่วงถามและตอบ มีช่วงหนึ่ง 'สุทิน' ได้โชว์ลูกคอร้องเพลงแนวหมอลำสั้นๆ 1 ท่อน "สวยแท้ แม่สาว อันนี้เต้ยนะ"

หลังร้องจบ 1 ท่อน 'สุทิน' ออกตัวบอกว่า "วันนี้เสียงไม่ได้จริงๆ วันนี้เสียงคีย์ตกมาก เพราะคอแห้ง"

"แต่ว่าเป็นในคลิปนี่เยอะ เพราะผมมีวงดนตรีรำวงย้อนยุค แล้วก็ชาวบ้านจ้างนะ ไปนี่ ผมจะเป็นนักร้องนำ รำวงย้อนยุค เมดเล่ย์"

สุทิน คลังแสง VoicePolitics ปกเฟซบุ๊ก 62A212AF9E9.jpeg
  • ก่อนจะมาเป็น ส.ส.มหาสารคาม คุณสุทิน คลังแสง ทำอะไรมาก่อนเข้าสู่การเมือง

เป็นครู พอเป็นครูแล้วยังสนใจการเมืองอยู่ เป็นครูมาสอนคนที่ด้อยโอกาส สอนเด็กพิการระหว่างนั้นสอนไปด้วยสนใจการเมืองไปด้วย แล้วไปคบกับนักการเมืองไปด้วย ระหว่างที่คบกับนักการเมืองไปด้วยก็ได้ทักษะ ได้เห็นแนวทาง ก็คิดว่า ถ้ามีโอกาสจะเข้าสู่การเมือง แต่ก็ยอมรับจริงๆ ว่าตอนนั้นไม่ค่อยมีความหวังหรอก เพราะเราไม่ค่อยมีฐานะ ก็มีพรรคไทยรักไทยตั้งพอดี ตั้งปี 2542 ก็มีคนไปมองไปชวนในต่างจังหวัด ก็มีคนไปชวนว่ามีแวว ตอนนั้นผมเป็นผู้บริหาร เป็นผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก็สมัครเข้าพรรคไทยรักไทย รุ่นแรก พอเข้ามาไม่มีใคร ผมเป็นวิทยากรแม่ไก่ เดินสายอบรมเชิญชวนสมาชิก

เลือกตั้งผมได้ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ได้เป็น ส.ส.ตั้งแต่แรก สมัยแรก 4 ปี มาเลือกตั้งปี 2548-2549 ถูกยึดอำนาจโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ผมก็มาตั้งพลังประชาชนกับคณะ ไปเป็นกรรมการบริหารพรรคได้รับเลือกตั้งปี 2550 พอปี 2551 ถูกยุบพรรคอีก พลังประชาชน ผมถูกตัดสิทิ 5 ปี 

ท้ายสุดคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะนั้นได้มายึดอำนาจปี 2557 ผมก็ถูกเว้นวรรคไปอีก 5 ปี 5 บวก 6 เป็น 11 ปี เว้นวรรคทางการเมือง 11 ปี

หลังเว้นวรรคลงเลือกตั้ง ผมก็ก่อตั้งเสื้อแดงกับคุณจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. นิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ก็ทำขบวนการเสื้อแดงโตขึ้น ผมรับผิดชอบทางซีกอีสาน ขึ้นเวทีไปเรื่อย สู้มาจนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เสื้อแดงยังอยู่ ไล่ไปจนยิ่งลักษณ์ถูกยึดอำนาจ ผมก็ยังทำการเมืองนอกสภาฯ มาจนถึงปี 2562 ก็ได้เข้าสภาฯ อีกครั้งหนึ่ง

  • เคยคิดว่าจะได้เป็น ส.ส.หรือไม่

คิดแต่คิดว่าไม่ได้เป็น อยากเป็นแต่คิดว่าไม่มีโอกาส เพราะต้องยอมรับว่าสมัยนั้นมันใช้เงิน เราไม่มีฐานะพอ มาเห็นนักการเมืองหลายคนในแนวไม่ต้องใช้เงินก็มาเกิดแรงบันดาลใจมีโอกาส ก็ศึกษาสไตล์เขามาใช้ก็ได้เป็น หลายคนอย่างคุณลุงแคล้ว นรปติ อดีต ส.ส.ขอนแก่น ไม่ต้องใช้เงิน คุณอดิศร เพียงเกษ อย่างนี้

  • เป็นผู้แทนราษฎรคนอีสาน คิดอย่างไรกับวาทกรรมโง่ จน เจ็บ ที่คนอีสานมักถูกดูถูกและยังถูกมองเป็นพลเมืองชนชั้นสอง

ทางเดียวที่คนอีสานจะมีความเท่าเทียมต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยตัวเอง ถ้าประชาชนเข้มแข็ง ตระหนักในสิทธิเสรีภาพ ก็จะได้นักการเมืองที่เข้มแข็ง นักการเมืองที่เข้มแข็งก็จะนำมาซึ่งประชาธิปไตย ประชาธิปไตยซึ่งทำให้ทุกคนเท่าเทียม วันนี้ผมทำอยู่เรื่องหนึ่งคือ ทำมูลนิธิอีสานเพื่อการพัฒนา ที่ทำอยู่ตอนนี้นะ เพิ่งตั้งไม่นาน มูลนิธินี้จะทำให้ช่องทางให้คนอีสานเกิดความเข้มแข็ง

การเมืองคือตัวการ ในอดีตนักการเมืองอีสานถูกกำจัดเยอะนะ ใครเก่งๆ 4 รัฐมนตรีอีสานถูกสังหารโหดฆ่าทิ้ง เก่งๆระดับ เตียง ศิริขันธ์ ทองอินทร์ ภูริพัฒน์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้เลยนะ จำลอง ดาวเรือง ไม่ธรรมดานะ ทองเปลว ชลภูมิ ถวิล อุดล ถูกฆ่าทิ้งหมด ใครเก่งๆถูกฆ่าทิ้ง เป็นการกำราบ ครูครอง จันดาวงศ์ มันก็ทำให้เกิดความอ่อนแอในทางการเมือง นักการเมืองรุ่นหลังไม่ค่อยมีคนกล้าสู้ ชาวบ้านอ่อนแอก็เป็นโอกาสช่องทางให้อำนาจอื่นมาซ้ำเติม

ตื่นตัว ขาดผู้นำที่เข้มแข็งพอ ทำไมขาดผู้นำที่เข้มแข็งพอ เพราะว่าถ้าการเมืองวันนี้ดึงไปเป็นธนกิจการเมือง มันยิ่งเป็นตัวปิดกั้น ผู้นำอีสานหาที่รวยๆ ไม่ค่อยมี มันก็เป็นปัญหาอยู่ ถ้าจะรอผู้นำที่รวยๆ ขึ้นมาเป็นผู้นำที่อีสาน ป่วยการ ก็ไปสร้างความเข้มแข็งด้านอื่น ไปเอาความเข้มแข็งของประชาชน ดันให้เป็นเครือข่ายนักการเมืองอีสานที่เกาะเกี่ยวเหนี่ยวนำกันแข็งๆ

ประชาชนในอีสาน เสียงเขาไม่ดัง ถ้าชาวบ้านเสียงไม่ดัง ผู้แทนต้องเสียงดัง ชาวบ้านเรียนรู้ไม่มาก ผู้แทนต้องรู้มาก ชาวบ้านกลัว ผู้แทนต้องไม่กลัว อยากจะมาถึงจุดนี้ ก็พอได้เป็นดาวสภา ดาวเด่น ประสบความสำเร็จสูงนะ ใช่นะ ผมถือว่าสำเร็จสูงสุด ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุด เพราะคำว่าดาวสภาฯ ดาวเด่น ทำให้สถานะนี้เราพูดแล้วคนฟัง ติดตัวแล้วเป็นอย่างนั้นจริงๆ ช่วงหลังก็สัมผัสได้ว่าคลิปผมทุกคลิปมีคนติดตามเยอะ เยอะก็แสดงว่าคนฟัง หลายเรื่องที่ผมขึ้นพูดสภาฯ ฟัง

  • ถามความหมายทำไมต้องใช้ชื่อ "คลังแสงของประชาชน"

คลังแสง ก็นามสกุลอยู่แล้วนะ แต่คำว่าของประชาชน ตอนเข้ามาสภาฯ ใหม่ๆ เวลามีพูด คนเขาก็มองว่าพี่พูดแทนประชาชน ตอนนั้นก็สู้กับฝ่ายทหาร เผด็จการยังมีเชื้ออยู่ ใช่ไหม เวลาเราพูดก็สู้กับซีกเผด็จการ พูดกับชาวบ้าน เขาก็เลยเปรียบว่าคลังแสง เปรียบเหมือนอาวุธทิ่งแทงฝ่ายตงรข้าม เป็นอาวุธจากประชาชน

สุทิน คลังแสง VoicePolitics 89AA1202C.jpeg
  • เทคนิคการอภิปรายในสภาฯ ทำให้สะกดคนฟังทั้งประเทศทั้งในและนอกสภาฯ 

ผมเป็นคนชอบพูดตั้งแต่เด็ก เป็นนักเรียน เป็นนักศึกษา เป็นผู้แทนไปโต้วาที ชิงรางวัล อยู่ระดับมหาวิทยาลัย เราก็เป็นคนนำเสนอรายงานอะไรอย่างนี้ แล้วบวกกับความครู เป็นครูต้องใช้กระบวนการสื่อสารให้เด็กเข้าใจ มันก็ได้ประสบการณ์จากการสอนด้วย ผมชอบฟังนักการเมืองเก่าๆ อย่างคุณสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี คุณเฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไล่มาทุกรุ่นเอาเทปมาฟัง ฉะนั้น มันก็เลยเกิดเป็นสไตล์ของเรา

หลายคนเห็นผมเวลาพูดไม่มีสคริปต์ พูดในสภาฯ 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง ผมไม่มีกระดาษ เพราะว่าเวลาผมทำความเข้าใจแต่ละเรื่องที่พูด ผมคิดเป็นระบบ คิดเป็นมายแมพ คิดเป็นโครงสร้างการพูดเป็นเรื่องราว เวลาคิดแบบนี้ ความเข้าใจไม่ใช่ความจำ เป็นความเข้าใจในเรื่อง เวลาเราคิดเป็นระบบเป็นโครงสร้าง คิดเป็นมายแมพ เวลาขึ้นพูด ไม่มีความจำเป็นต้องหยิบอะไรดูมาก

ยิ่งไปอ่าน ยิ่งไปท่อง ยิ่งมีสคริปต์ มันจะพูดไม่น่าฟัง ยิ่งพูดไม่เข้าใจ ไม่ธรรมชาติ เทคนิคสำคัญต้องรู้ให้มาก รู้เรื่องที่จะพูดให้กว้างแล้วทำความเข้าใจคิดเป็นโครงสร้าง แล้วเวลาพูดมันจะมาเอง แล้วไม่ต้องซ้อมมาก ไม่ต้องท่องมาก 

สุทิน คลังแสง VoicePolitics  _Logo_012.jpg
  • ใช้เวลาเตรียมตัวก่อนอภิปรายนานไหม

คนในพรรคเพื่อไทยจะเห็นเลยว่า ผมเป็นคนที่เตรียมตัวน้อยที่สุด หนึ่ง อัปเดต ข้อมูลอยู่ตลอดเป็นชีวิตประจำวัน อ่านอัปเดต ผมเจออะไรก็บันทึกไว้ ก็รู้ทีนี้ ไอ้ความรู้มีอยู่แล้ว แต่เราพอคิดเป็นโครงสร้างจับมาใช้ได้หมด

  • กลวิธีปิดท้ายสรุปเรื่องในการอภิปราย ด้วยการร้อยเรียงทำอย่างไร

อภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 วันเลยนะ คนอภิปราย 50 คน คนตอบ คือ รัฐมนตรีก็ร่วม 20 คน เราสรุป 1 ชั่วโมงครึ่ง ทำยังไง เราเองไม่ต้องไปเอามาทั้งหมด เราเอาแก่นแกน เรื่องราวทั้งหมด ว่าที่เขาคุยกันมาตั้ง 4 วัน แก่นแกนคืออะไร แกนโครงสร้างหลักๆจริงๆ คุยอยู่ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทุกข์ สมมติอภิปราย หนองบังลำภู ทุุกข์ทุกคนบรรยายสภาพปัญหามันรุนแรง แล้วไปอีกคนจะพูดถึงสาเหตุของปัญหาก็คือสมุทัย นิโรธทางแก้ มรรคก็คือมรรคผล ผมมักจะใช้สังคหวัตถุ 4 เป็นโครงสร้าง คนขึ้นพูดแต่ละคนจะไม่หนีจากโครงสร้างนี้หรอก

อันที่สองเราจับประเด็นสำคัญ อย่าไปเอาทุกเรื่อง รายละเอียด อันไหนน่าสนใจก็ไปหยิบมาเป็นผงชูรส มาเติมให้มันดูได้ ดังนั้น การอภิปราย 4 วัน ผมฟัง 2 วันเลิก ผมฟัง 2 วันแรก ผมเลิกได้ ผมไม่ต้องฟังต่ออีก 2 วัน ไม่ต้องฟังก็ได้ ผมรู้แล้วว่าต่อไปอีก 2 วันจะพูดแนวนี้

พอผ่านไปครึ่งทางก็มาจัดโครงสร้าง สรุป แต่ต้องยอมรับว่าคนอภิปรายสรุปต้องเป็นคนที่จับประเด็นเก่ง จับประเด็นเก่ง ไม่ได้หมายความว่าคุณเอามาทุกเรื่อง คนพูดทุกคนเอามาทั้งหมดไม่ใช่ คนพูดอย่างคุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ขึ้นพูดผมจับมาได้ 2-3 ประเด็น ที่พูดมา 1 ชั่วโมง เอามา 2 ประเด็นพอ เราฟัง รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผมก็ได้มา 2 ประเด็น เอาเฉพาะประเด็นสำคัญเหล่านั้นมา

ถ้าคุณเริ่มจากทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค คนก็จะตาม มันเป็นเรื่องที่เกาะเกี่ยวกันไป แต่ถ้าคุณไปโดดหน้า โดดหลัง โดดนั่นโดดนี่ คนจะไม่ฟัง ถ้าคุณทำโครงสร้างที่ผมพูด มันจะเป็นเรื่องราว ถ้าเป็นสตอรี่ก็เหมือนนิยาย คนจะฟัง แต่บางคนไม่ทำโครงสร้างอย่างนี้ พูดโดดหน้าโดดหลัง ไปยำอย่างนี้ คนก็ไม่ฟัง

ตอนสุดท้ายผมปรับวิธีสรุปอภิปรายไม่ไว้วางใจล่วงหน้า 2 ชั่วโมง รัฐมนตรีถูกอภิปราย 11 คนครั้งที่แล้ว ผู้อภิปราย 45 คน ทีนี้ผมสรุปภาพรวม เวลาน้อยจะสรุปภาพรวม ไม่ได้รายบุคคล แต่ทีมที่ปรึกษาของพรรคบอก สุทิน เที่ยวนี้ขอคุณสรุปแบบใหม่ได้ไหม คุณเอารายบุคคลเลย รัฐมนตรี 11 คนว่าเลยแต่ละคน

สุทิน คลังแสง VoicePolitics 44EC-978D-B5F5034B32F7.jpeg
  • เช็คบิลรัฐมนตรี 11 คนเรียงตัวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย

เช็คบิลทีละคนเลย คนสรุปแต่ละคน ออเดอร์นี้ก่อนอภิปรายสรุป 2 ชั่วโมง ผมทำยังไงรู้ไหม ปวดหัวมาก เพราะผมไม่ได้นั่งฟังทุกคน ถ้าแบบนี้ต้องนั่งฟังทุกคน ผมก็ใช้วิธีถามแต่ละคน ใครอภิปรายจุรินทร์บ้าง ใครอภิปราย จุติ ไกรฤกษ์ บ้าง 3 คนที่อภิปราย ผมถามว่า ที่คุณว่าเขา แล้วเขาตอบขึ้นมา มีอะไรที่คุณติดใจ ที่ไม่ชัดเจน แล้วถ้าให้คุณอีกรอบจะจี้เรื่องอะไร เขาก็สรุปให้ผมแต่ละคน

  • ลีลาการอภิปรายของคุณสุทินคล้ายใครในสภาฯ

มันจะมีแบบฉบับหลายคนอยู่ในตัวผม มีสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินเรื่องให้คนเพลินได้ แบบพูดสบายๆ เป็นธรรมชาติ ท่านสมัครจะไม่พูดเป็นหลักเป็นเกณฑ์ สมัครจะพูดธรรมชาติ ผมว่าผมมีบางอย่างเหมือนท่านสมัคร แล้วก็มีข้อมูลลำดับที่ใช้ข้อมูลดีๆ เหมือนคุณจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ เน้นนำเสนอข้อมูลที่ดี คล้ายๆ คุณจาตุรนต์ คล้ายๆ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่

ผมจะชอบท่านสมัคร แต่มีคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่นักการเมือง แต่ท่านไม่เคยสรุปอภิปรายอย่างนี้ และอธิบายเป็นโครงสร้างที่ดี คือท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ผมก็มีสไตล์แบบคุณวิษณุ ที่อธิบายเชิงวิชาการให้คนเข้าใจง่าย

สุทิน คลังแสง VoicePolitics  _Logo_005.jpgสุทิน คลังแสง VoicePolitics   Logo_009.jpg
  • สื่อมวลชนยกให้เป็นดาวสภาฯ ปี 2563 จากการอภิปราย

ถามว่าเซอร์ไพรส์ไหม จริงๆ ไม่เซอร์ไพรส์ นี่ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง ผมคิดว่าทำหน้าที่ได้ดี แล้วก็คิดว่าน่าจะเหมาะสมอยู่ ไม่ถ่อมตัวนะ เพราะว่าการอภิปรายนอกเหนือจากคนอภิปรายสรุป มันโดดเด่นอยู่แล้ว การทำให้พูดแล้วมีอิทธิพลต่อคนฟัง สะกดคนฟังทั้งสภาฯ คือพูดแล้วให้เขาฟังเรา ผมคิดว่าผมทำได้ ได้ดีอยู่ แล้วทำให้บรรยากาศสภาฯ ราบรื่น เรียบร้อยไม่มีใครประท้วงผม

ผมยังครองตำแหน่งผู้สรุปได้อย่างเหนียวแน่น ไม่ได้หมายความว่าล็อกต้องเป็นผมนะ แต่ทุกครั้งผมก็ถามว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผมนะ ที่สรุปแบบนี้ แต่ทุกคนทุกพรรคก็บอกว่าต้องเป็นคุณสุทิน

  • ถ้าให้พูดทั้งวันทำได้ไหม

ได้นะ จริงๆวันนั้นมีเวลา 4 ชั่วโมง ผมพูดได้นะ 4 ชั่วโมงผมพูดได้ ไม่ต้องพักและไม่ต้องมีสคริปต์ แต่เราเพียงว่า จิบน้ำไปด้วย แต่พูดไม่ได้ เพียงแต่ที่ไม่พูด ไม่ต้องการใช้เวลาเต็ม เพียงแต่การพููดที่ดีคือพูดได้ความแล้ว สมบูรณ์แล้วน่าจะพอ ไม่ใช่ไปเอาปริมาณ วันนั้นเราคิดว่าพูดได้สมบูรณ์แล้วก็พอ

  • รัฐมนตรีที่ชี้แจง ในสภาฯ แย่ที่สุดตลอด 4 ปีในสายตาคุณสุทิน

ก็ต้องยกให้นายกฯ เลย นายกฯ ประยุทธ์ นี่ ตกแบบโหล่เลย ที่โหล่เลย ในบรรดารัฐมนตรีทุกคน ท่านไม่มีเจตนาจะพูดให้คนเข้าใจ ไม่ได้เอาคนฟังเป็นเป้าหมาย ท่านเอาตัวเองเป็นเป้าหมาย พูดเสียให้จบๆ อันนี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดมหาศาล เทคนิคการสื่อสาร เราเป็นผู้ส่งสาร คุณต้องยึดผู้รับสารเป็นหลัก ต้องวิเคราะห์ผู้รับสารทุกอย่าง

แต่ท่านนายกฯ ประยุทธ์ ขึ้นมาก้มอ่านอย่างเดียว อ่านให้จบไม่สนใจคนฟัง อันนี้คือความล้มเหลวมาก มีได้อย่างเดียวคือ อารมณ์เย็นลง ระงับอารมณ์ได้เย็น แต่การนำเสนอไม่ว่าจะเป็นเทคนิค สาระ ยังไม่มีอะไรพัฒนา มันแย่ถึงขนาดว่าไม่สนใจคำถามที่เขาถาม

สุทิน คลังแสง VoicePolitics C-364640B73B17.jpeg
  • พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พูดในสภาฯน้อยแต่เสียหายน้อยกว่านายกฯ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถึงไม่พูดก็พูดน้อยก็ยังไม่เสียหายเท่ากับคนพูดมากๆ แล้วไม่ได้อะไรเลย ต่อให้พูดน้อยกว่า ก็เสียหายน้อยกว่า คนที่พูดเยอะๆ ท่านนายกฯ

  • เหตุการณ์สภาฯ ล่มบ่อยๆ ช่วงท้ายสมัยประชุมรัฐสภาก่อนครบวาระ จะกดดันให้นายกฯ ยุบสภาฯ หรือไม่  

ถ้าเจตนาของเราคือ เป็นอารยะขัดขืนที่บอกคุณว่า เรื่องดีๆ ทำให้ตก เพราะเสียงข้างมากลากไป เรื่องไม่ดี มันควรไม่ผ่าน แต่คุณใช้เสียงข้างมากลากไป เราทำอะไรไม่ได้ ต้องใช้อารยะขัดขืน วิธีที่ดีที่สุดก็คือนับองค์ แต่นับองค์ประชุมแล้วถ้าคุณมีวินัยดีพอ พวกผมก็ทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ถ้าพวกคุณไม่มีวินัย ควบคุมกันไม่ได้ คุณแตกกันเอง ปัญหาอยู่ที่คุณ ไม่ได้อยู่ที่ผม ปัญหาอยู่ที่คนถูกนับองค์ ไม่ใช่คนนับ

นอกจากรักษาองค์ประชุมไม่ได้ รัฐบาลไม่สนใจองค์ประชุม ปล่อยให้ ส.ส.ลาออกกันแบบนี้ มันจะเดินไม่ได้เลย ลาออกเพราะคุณซื้อ ส.ส.ไปรีบเอาเข้าพรรค คุณไปสนใจการเลือกตั้งครั้งหน้ามากกว่าจัดการสภาฯ วันนี้

สุทิน คลังแสง VoicePolitics 82F58D8DE6.jpeg
  • การอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ถูกทอดเวลาให้อภิปรายในช่วงท้ายสมัยประชุมรัฐสภา

ก็แปลกอย่างรัฐบาล ถ้าจะให้อภิปรายจะให้ห่างวันเลือกตั้ง อภิปรายใกล้วันเลือกตั้งเสียหายนะ รัฐบาลเสียหายนะ โดนขึงพืด เข้าสู่สนามแผลเต็มตัว ถ้าผมเป็นรัฐบาลจะรีบให้อภิปรายตั้งแต่วันยื่นเลย จะได้เอาเรื่องอื่นมากลบๆ เข้าสู่เลือกตั้งจะได้ลืม

ลากไปยาวๆแบบนี้ สุดท้ายใช่ไหม จะไม่ให้อภิปราย แล้วไม่ให้อภิปรายความเสียหายจะเกิดอะไรขึ้น มันก็เสียหาย สังคมก็จะแคลงใจ ทำไมคุณยุบสภาฯ หนีเขา มันมีอะไรผิด ยุบสภาฯ ไม่ใช่ว่าฝ่ายค้านไม่พูด เขาพูดนอกสภาก็ได้ ขึงพืดผ่านโซเชียลฯ ก็ได้ ผมว่ารัฐบาลสับสนในตัวเขาอยู่นะ

  • มีโอกาสไหมภายใต้กติกาปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์เหมือนสมัยตอนพรรคไทยรักไทย

ผมว่าถึง มันไม่ยากเหมือนครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วยากกว่า บัตรใบเดียว มี ส.ส.พึงมี แต่ตอนนี้ไม่มีพึงมี คราวที่แล้ว ถ้าไม่มีพึงมี แม้เราส่งแค่ 250 เขต ผมว่าเราจะแตะครึ่ง ถ้าไม่มี ส.ส.พึงมี ผมว่าคราวที่แล้ว ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ได้ 20 เสียงขึ้น ยิ่งมาแสดงอาการอยากอยู่ต่อจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้อยู่ได้ตลอดไป ไม่จำกัด ผมว่าชาวบ้านสะพึงเลยนะ

ผมเชื่อว่าครั้งสุดท้ายของพล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน เพราะว่าอยู่มาก็ ใช้เทคนิคอื่น ใช้ความเข้มแข็งใช้อำนาจรัฐ ในการกดประชาชน ไม่ได้อยู่ได้เพราะศรัทธา

  • ถ้าเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ได้เสียงมาเป็นที่ 1 จะทำยังไงให้ ส.ว.มาโหวตให้เพื่อไทยเป็นนายกฯ

ผมไม่ค่อยหวังกับ ส.ว. ไม่คาดหวังเลย ผมคาดหวังเพียงว่าถ้าเราได้เกินครึ่งของสภาฯ ซึ่งมันเป็นไปได้ ไม่ใช่เกินเอื้อมสัก 270-280 เสียง เป็นไปได้ ถ้าแม้ตัวเราขาดนิดหน่อย เอาพรรคพันธมิตรมารวมกันได้สัก 270-280 เสียง ผมว่าแค่นี้ ส.ว.แม้ไม่ยกให้เราจะยกให้คนอื่นก็คิดหนัก เพราะคนที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ คุณเข้ามาเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้วประธานสภาฯ เป็นฝ่ายนี้ด้วย ถ้าเราได้เกินครึ่งประธานสภาฯ ต้องเป็นฝ่ายเราอยู่แล้ว ต้องเป็นเพื่อไทยอยู่แล้ว เกิน 251 เสียง ประธานสภาฯต้องเป็นคนของเราอยู่แล้ว

คนที่มาเป็นนายกฯ อาจจะคิดว่าชนะเราได้นะ มี ส.ว.มาบวก แต่ชนะแล้วคุณจะบริหารไม่ได้ เพราะหลังจากนั้น ส.ว.ไม่ได้มายกมือช่วยคุณนะ ผมจึงเชื่อว่า ถ้าเรายึดตำแหน่งประธานสภาฯ ไว้ได้ คนอื่นไม่กล้าเป็นนายกฯ นรกรอคุณอยู่

  • ด่านแรกพรรคเพื่อไทยเอาประธานรัฐสภา เราต้องเอาประธานรัฐสภาก่อน  

เราต้องเอาประธานสภาฯ ก่อน การเป็นนายกฯ ก็จะง่ายขึ้น ง่ายขึ้น ทำอะไรก็ตามถ้าเกินครึ่งในสภาฯ เราก็คุมเสียงข้างมากในสภาฯ เอาล่ะพอเลือกนายกฯ เราแพ้ เพราะมี ส.ว.มายกช่วย แต่ คนที่เป็นนายกฯต้องคิดว่าจะอยู่ได้กี่น้ำ สมมติเข้ามาจะเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ส.ว. ไม่ได้มายกช่วยนะ เพราะเป็นเรื่องสภาฯ เราก็คว่ำได้เลย คว่ำได้ เพราะนั้น คนเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่จำเป็นก็ไม่กล้าเป็น ถ้าเราเอาประธานสภาฯ ได้ก่อนก็ได้เปรียบ ถ้าพรรคเพื่อไทยเกินมากก็ดี แต่ถ้าพลาดเป้า เกินนิดหน่อย เอาเพื่อนฝ่ายค้านมาแปะก็เป็นรัฐบาลได้

  • พรรคก้าวไกล เป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ พันธมิตรได้

เราอยากคุยพันธมิตรเดิมเรา ฝ่ายประชาธิปไตยมากกว่า พรรคก้าวไกลไม่มีอะไรเป็นข้อรังเกียจ อยู่ซีกประชาธิปไตยด้วยกัน แนวทางตรงกันด้วย รายละเอียดอาจไม่เหมือืนกันทุกอย่าง อาจจะคุยง่ายกว่าคนที่มีความคิดเผด็จการ

สุทิน คลังแสง VoicePolitics -1020FA4D6358.jpeg
  • พรรคพลังประชารัฐจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหลังเลือกตั้งได้หรือไม่

ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ต้องขอยืนอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐ คนพูดมานาน ว่าเราแตะกันตั้งแต่ปีแรก อภิปรายไม่ไว้วางใจทำไมต้องยกเว้น บิ๊กป้อม คุณมีอะไรกับ บิ๊กป้อม คุณมีอะไรกับ พรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่เห็นมีอะไร แล้ววันนี้พรรคเพื่อไทยจะไปจับมือใครตั้งรัฐบาล สิ่งสำคัญที่สุด พรรคเพื่อไทยต้องคิดถึงแฟนคลับ และสมาชิกเรา ถ้าเราไปทำอะไรที่ขัดใจกับแฟนคลับเรา หรือไม่ใช่ที่สมาชิกพรรคเราเห็นด้วยผมว่าเราก็ดับอนาคตตัวเอง 

  • ถ้าจะทำให้พรรคเพื่อไทยไม่แตะมือกับพรรคพลังประชารัฐ

พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ เราก็บอกสมาชิกเราทุกคน ตัดปัญหาไปไม่ต้องไปจับคนนั้นคนนี้ เลือกมาเยอะๆเลย ซึ่งเคยเป็น เราเคยได้ถึง 377 เสียง ปี 2548 เคยทำได้ แต่ตอนนี้ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เอาสักเกินครึ่ง 280-300 เสียง ผมว่าเราตั้งไม่ได้ คนอื่นก็ไม่กล้าตั้ง ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องรีบประกาศ แต่ต้องดูความต้องการของประชาชนให้ชัดที่สุดก่อน 

  • ระหว่างยุบสภาฯ กับครบวาระ รัฐบาลจะใช้ช่องทางไหนมากกว่า

ผมเชื่อว่ายุบสภาฯ มากกว่า คงยุบใกล้หมดวาระ ยุบสภาฯ เพื่อทางกฎหมายให้ได้เป็นประโยชน์กับพรรคที่ตั้งใหม่ ผมว่าเรื่องนี้เรื่องเดียว คนจะยุบสภาฯ ต้องลงเลือกตั้งกำลังทำพรรค ถ้ายุบแล้วไม่พร้อม วิ่งตาตั้ง เขาก็ไม่ยุบ เมื่อไรเขาพร้อมก็ยุบสภาฯ เขาน่าจะลากให้ใกล้ชนป้ายที่สุด แต่แปลกใจตรงอภิปรายทั่วไปทำไมลากไปนาน มองว่าเขาสับสนในท่วงท่าการเดินเขาอยู่

  • ฝากถึงประชาชนในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

ฝากถึงพี่น้องประชาชนเราอยู่ในระบบแม้จะไม่มาตรฐานเหมือนคนในโลก เราต้องยึดมั่นในประชาธิปไตย ไม่ได้ 100% ก็ต้องให้ได้มากที่สุด แต่วันนี้ ปัญหาเฉพาะหน้าจะแก้ได้ ต้องเปลี่ยแปลงโดยระบบการเลือกตั้ง อยากจะให้ประชาชนใช้โอกาสการเลือกตั้งเพื่อชีวิต อย่าใช้โอกาสการเลือกตั้งให้มันเสียไปสูญเปล่า ให้เป็นการเลือกตั้งนำพาชีวิตมีสิ่งดีๆ มีความหวังใหม่ๆ นำพาชีวิต ถ้าสุกเอาเผากิน เสียโอกาสอีก 4 ปีจะไม่คุ้ม อยากให้พี่น้องคิดให้ได้ให้คุ้มที่รอคอยการเปลี่ยนแปลงชีวิต

สุทิน คลังแสง VoicePolitics 8FB8-F2E8C4E31610.jpeg

ชมคลิป 'สุทิน' ดาวสภาฯ ‘สารคาม’ ผู้แทนอีสาน คลังแสงของประชาชน

ภาพ - ปฏิภัทร จันทร์ทอง