เพิ่งเสร็จสิ้นการประกวดไปหมาดๆ คณะนางสาวไทยประจำปี 2563 นำโดย ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์ หรือ เมย์ นางสาวไทย พร้อมทั้ง รองนางสาวไทยอันดับที่ 1 ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ หรือ นิต้า รองอันดับ 2 สุพรรณิการ์ นพรัตน์ หรือ หยก รองอันดับ 3 กมลพร ทองพล หรือ กิ๊ฟ และรองอันดับ 4 ปทิตตา สันติวิชช์ หรือ แพรว ได้มาพูดคุยกับ 'วอยซ์' ในหัวข้อ 'เสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง' ซึ่งพวกเธอต่างมองว่าทุกคนมีสิทธิ มีอิสระในการแสดงออก และต้องยอมรับในความเห็นต่าง
เมย์ ณัฐพัชร นางสาวไทย 2563 บอกว่า คำว่าเสรีภาพคือความอิสระ คำว่าสิทธิคืออำนาจที่เราจะสามารถกล้าแสดงความคิดเห็นของเราออกมาเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ว่าใครจะคิดต่างหรือคิดไม่เหมือนกันยังไง สิทธิและเสรีภาพ ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิผู้อื่น เคารพสิทธิตัวเอง และเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน และไม่ขัดแย้งกัน เพราะการแตกต่างไม่ใช่เรื่องแปลก และแตกต่างต้องไม่แตกแยก
เธอยังมองว่าความแตกต่างเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการพัฒนา เพราะถ้ามีความเห็นแตกต่างกัน จะเกิดการคุยการแลกเปลี่ยน ที่นำไปสู่การพัฒนาและก้าวไปข้างหน้า
นิต้า ณิษฐกาณต์ รองอันดับ 1 นางสาวไทย สาวนักเรียนนอก มีมุมมองว่า การแสดงออกและการเเสดงความคิดเห็นไม่ควรเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ถึงขั้นติดคุกติดตาราง
เราควรที่จะฟังประเด็นสิ่งที่เขาพูด เพราะว่าสิ่งที่เขาพูดคือสิ่งที่ประชาชนคนหนึ่ง อยากพูดเหมือนกัน การที่เราเติบโตมาในประเทศๆ หนึ่ง หรือครอบครัว ครอบครัวหนึ่ง การได้แสดงออกถึงอะไรบางอย่าง มันจะทำให้ประเทศนั้นหรือครอบครัวนั้น พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นในสังคมเราควรจะยอมรับในความแตกต่าง รับฟังกันให้มาก ฟังด้วยเหตุผล ฟังอย่างลึก อย่าเอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยว เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าเราฟังกันประเทศของเรามันสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ เพราะความจริงมีหลายชุดมาก อยากให้ทุกคนฟังกันให้มากขึ้น
"ไม่ว่าจะเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อย มันก็คือเสียง เราต้องฟังทั้ง 2 ฝ่ายแล้วก็หา ข้อตกลงร่วมกันให้เจอค่ะ"
หยก สุพรรณิการ์ รองอันดับ 2 นางสาวไทย มองว่า เมื่อเราโตขึ้นเรามีสิทธิมีเสียงที่จะใช้ความคิด หรือว่าคำพูดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูด มีสิทธิทุกอย่าง แต่ต้องอยู่บนบรรทัดฐานของความถูกต้องและเคารพผู้อื่นในสังคม
หยกคิดว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกันในการแสดงออกทางความคิด สิ่งที่จะทำให้เราต่างๆ จากทุกๆ ประเทศก็คือ เราจะต้องแสดงออกอย่างเคารพกัน เคารพทุกคนในสังคม และไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม
"การที่เราได้ออกสิทธิออกเสียง ได้พูดสิ่งที่เราคิดออกไป ได้แสดงความคิดเห็นต่างๆ คือสิทธิที่เราควรจะได้รับ มันก็คือสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ทุกคนค่ะ"
กิ๊ฟ กมลพร รองอันดับ 3 นางสาวไทย เผยว่า คนเรามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งความคิดเห็นแตกต่างกันนั้น ถ้าเราหันหน้าเข้ามาคุยกัน และแลกเปลี่ยนกันมันจะทำให้เราได้ข้อสรุปที่ดีมากยิ่งขึ้น ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง เพราะความรุนแรงคือบ่อเกิดของความสูญเสีย การเข้าใจกันและหันหน้าเข้ามาคุยกัน ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเข้าหากัน
แพรว ปทิตตา รองอันดับ 4 นางสาวไทย บอกว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยไม่มีความคิดของใครใหญ่หรือสำคัญกว่าความคิดของคนอื่น เราอยู่ภายใต้รูปแบบการปกครองประชาธิปไตย ดังนั้นเสียงข้างมากย่อมมีความสำคัญมากกว่า และคนที่มีเสียงข้างน้อยต้องยินยอมและรับฟัง
เราสามารถเเสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี ภายใต้พื้นฐานของความเคารพซึ่งกันเเละกัน ซึี่งทำให้สังคมขับเคลื่อนไปข้างหน้า ดีกว่าการที่เรามาจำกัดความคิด แล้วสุดท้ายทุกคนเก็บกด ไม่สามารถแสดงอะไรบ้างอย่างได้ ซึ่งมันเป็นการลดคุณค่าของความเป็นคน