ไม่พบผลการค้นหา
'โดนัลด์ ทรัมป์' อ้างถูกฝ่ายตรงข้ามโกงผลเลือกตั้ง จากบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ แม้ไม่มีหลักฐานยืนยัน - ด้านกลุ่มต้านและหนุน เริ่มออกมาเคลื่อนไหวหลายเมือง ส่อเค้ายืดเยื้อหากผู้นำสหรัฐฯ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

โลกยังคงเฝ้าจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 4 พ.ย. ซึ่งกินเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่ 2 ของการนับคะแนนโดยช่วงเช้าของวันที่ 6 พ.ย. โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงข่าวจากทำเนียบขาว ระบุว่า เขากำลังถูกโกงโดยฝ่ายตรงข้าม โดยอ้างว่ามีความพยายามที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สุจริต จากการนำบัตรลงคะแนนที่มาถึงล่าช้าและผิดกฎหมายมานับคะแนน เป็นเหตุให้คะแนนของโจ ไบเดน คู่แข่งเริ่มตีตื้นในหลายพื้นที่รัฐสมรภูมิ

ทรัมป์กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่คะแนนเสียงทางไปรษณีย์ที่นำมานับล่าสุดกว่า 75% คะแนนเป็นของโจ ไบเดน โดยก่อนหน้านี้เขากำลังชนะในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิลแล้ว แต่กลับมีคะแนนของไบเดน ซึ่งมาจากการนับทางไปรษณีย์ ตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ 

"หากนับบัตรเลือกตั้งถูกกฎหมาย ผมชนะเลือกตั้งอย่างง่ายดาย แต่หากนับบัตรเลือกตั้งผิดกฎหมายและบัตรที่มาถึงช้า พวกเขาจะขโมยชัยชนะไปจากเรา" 

ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 45 ยังอ้างด้วยว่า มีความพยายามแทรกแซงจากสื่อยักษ์ใหญ่ และกลุ่มนายทุ่นเงินหนาว่า "ผมชนะรัฐสำคัญๆ ได้หลายรัฐ แม้ว่าจะมีการแทรกแซงครั้งประวัติศาสตร์ที่เกิดจากฝีมือสื่อยักษ์ใหญ่ กลุ่มนายทุนเงินหนา และบริษัทเทคโนโลยี"

ทรัมป์ ยังระบุในแถลงด้วยว่า โพลจากสื่อหลายสำนักที่เผยไปก่อนหน้านี้ ทำให้คนเข้าใจผิด ชักจูงให้ชาวอเมริกันเทคะแนนไปฝ่ายตรงข้าม

ทรัมป์ กล่าวถึงแนวโน้มของผลการเลือกตั้งในพื้นที่รัฐสมรภูมิสำคัญซึ่งยังนับคะแนนไม่เสร็จสิ้น โดยพบว่าหลายแห่ง มีคะแนนของไบเดนเริ่มตีตื้นขึ้นมาว่า "ทั้งสองฝ่ายอาจประกาศชัยชนะได้ แต่ท้ายที่สุดผมว่า ผู้พิพากษาจะเป็นผู้ตัดสิน"

ทรัมป์ ยังได้อ้างถึง การไม่เปิดทางให้ผู้แทนของพรรครีพับลิกันเข้าไปสังเกตการณ์การนับคะแนนในบางพื้นที่ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐรายงานว่า สถานที่นับคะแนนในแต่ละแห่งนั้น มีผู้แทนจากทั้งสองพรรคเข้าไปสังเกตการณ์อยู่แล้ว 

ก่อนแถลงทรัมป์ ได้ทวีตเรียกร้องให้ยุติการนับคะแนน และข้อความที่บอกว่า ผลบัตรเลือกตั้งที่มาถึงล่าช้าจจะต้องไม่ถูกนับคะแนน


ส่อเค้าวุ่นหากทรัมป์ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ 

ก่อนหน้าผู้นำสหรัฐแถลง ได้มีทีมทนายของทรัมป์ได้ยื่้นคำร้องต่อศาลในรัฐมิชิแกน จอร์เจีย และเพนซิลเวเนีย แต่ศาลของรัฐมิชิแกน และจอร์เจีย ปฏิเสธรับคำร้องขอให้หยุดนับคะแนน

คำกล่าวหาของทรัมป์นี้ นับเป็นท่าทีล่าสุดที่ชัดเจนว่าอาจทำให้ผลการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ 2020 ส่อเค้ายื้ดเยื้อ ซึ่งอาจนำไปสู่การส่งผ่านอำนาจอย่างไม่ราบรื่น หากไบเดนชนะเลือกตั้ง จากที่ทรัมป์ระบุย้ำในการแถลงทั้งสองรอบว่าจะนำเรื่องผลการนับคะแนนฟ้องร้องศาล

เลือกตั้ง สหรัฐ


กลุ่มหนุน-ต้านทรัมป์ รวมตัวกดดันผลเลือกตั้ง

ชาวอเมริกันในหลายพื้นที่เริ่มรวมตัวประท้วง หลังจากการนับคะแนนอันยาวนานที่ยังไม่มีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากทั้งสองมีคะแนนสูสี โดยมีรายงานว่า ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ออกมารวมตัวเรียกร้องให้หยุดนับคะแนนเลือกตั้ง เนื่องจากเชื่อว่ามีความพยายามโกงผลเลือกตั้งตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์ รายงานระบุว่า ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ซึ่งยังคงนับคะแนนไม่เสร็จ มีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ราว 100 คน บางคนถืออาวุธปืน ไปรวมตัวที่หน้าสำนักงานเลือกตั้งเขตมาริโคปา เคาท์ตี เรียกร้องให้ยุติการนับคะแนน ท่ามกลางผลการนับคะแนนของทั้งสองที่กำลังขับเคี่ยวสูสี 

ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออเรกอน มีผู้ชุมนุมต่อต้านทรัมป์ เรียกร้องให้มีการนับคะแนนของผู้ใช้สิทธิครบทุกใบ โดยไม่ปฏิบัติตามความต้องการของทรัมป์ที่จะร้องศาลสั่งให้หยุดนับคะแนน ส่วนเมืองอื่นๆอย่าง มินนีแอโพลิส เมืองฟิลาเดลเฟีย นครชิคาโก และนครนิวยอร์ก มีการชุมนุมให้นับคะแนนบัตรทุกใบเช่นกัน โดยบางพื้นที่มีรายงานทุบกระจกร้านค้า เกิดการปะทะกับตำรวจ ส่งผลให้มีรายงานผู้ชุมนุมบางส่วนถูกจับกุม

ความขัดแย้งในหมู่ชาวอเมริกัน รวมทั้งท่าทีของทรัมป์ที่แสดงว่าอาจไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในเลือกตั้งครั้งนี้ สร้างความหวั่นวิตกว่าอาจนำไปสู่วิกฤตการทางการเมือง ที่ส่งผลต่อการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีสู่ผู้นำคนใหม่ได้