วันที่ 11 ก.ค. ที่อาคารรัฐสภา ตัวแทนของ 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล ได้นัดหมายประชุมเพื่อหารือความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ประกอบด้วย 

-พรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ณัฐวุฒิ บัวปทุม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และ พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

-พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, วสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง, วิรัตน์ วรศสิริน ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย, และ กัณวีร์ สืบแสง พรรคเป็นธรรม ส่วน เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ ตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ ติดภารกิจทำให้ยังมาไม่ทันการประชุม

โดย ภูมิธรรม เปิดเผยถึงกรณีตัวแทนทั้ง 8 พรรคร่วมรัฐบาล จะหารือเรื่องคุณสมบัติของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยระบุว่า ที่ผ่านมา พิธา บอกว่ามั่นใจ ฉะนั้นเราจึงอยากจะหารือกันว่า ที่มั่นใจนั้นเราจะช่วยอะไรได้บ้าง และเราจะช่วยสุดความสามารถของเรา 

เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวระบุว่าทางพรรคเพื่อไทย สามารถขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ถึง 40 เสียง ในขณะที่พรรคก้าวไกลได้ ส.ว. เพียงแค่ 20 เสียง ภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวต้องหารือกันว่าแต่ละคนทำได้แค่ไหน เมื่อถามย้ำว่าพรรคก้าวไกลมีการเปิดรายชื่อให้พรรคร่วมได้เห็นหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วตัวเลขที่สนับสนุนจากทรง ส.ว. ได้มากน้อยแค่ไหน ภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้จะหารือกัน ตอนนี้เรายังไม่ทราบอะไร 

ภูมิธรรม ยังยืนยันว่า ยังมีแผนเดียว ไม่มีแผนสำรอง กรณีเกิดความไม่แน่นอนในการโหวตเลือกนายกฯ แต่อย่างไรก็ตามเราจะผลักดัน พิธา อย่างสุดความสามารถ

เมื่อถามย้ำว่า ต้องเลือกถึงกี่ครั้ง ภูมิธรรม กล่าวอีกครั้งว่า สุดความสามารถ หมายถึงว่าเราจะทำเต็มที่เท่าที่ความสามารถของเราจะมี ซึ่งเรื่องนี้คือการประกาศเจตนารมณ์ ให้เห็นว่าเราตั้งใจและพยายามจะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ที่สุด ส่วนจะกี่รอบนั้นคงเป็นอำนาจที่สภาจะพิจารณา และอยู่ที่ความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น 

"เรื่องนี้อยู่ที่ความเป็นจริง เดี๋ยวรอดูว่าผลโหวตจะเป็นอย่างไรก่อน วันนี้เราไม่ควรคิดอะไรที่เกินเลยเกินไป เพราะนั่นคือการคาดเดา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดบรรยากาศหรือความรู้สึกต่างๆ ไปมากเกิน ตนว่าวันนี้อยู่ที่ความเป็นจริง"

เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เตือนพรรคร่วมฯ ว่าถ้าเลือกคนที่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็เสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคเอง ภูมิธรรม กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดก่อน ตอนนี้มีแต่ 'ถ้า' ทั้งนั้น และ 'ถ้า' ก็เป็นความคิดเห็นของแต่ละท่าน เราก็จะรับฟังเอามาพิจารณา ทุกสิ่งมีความหมายหมด ทุกท่าทีที่แสดงออกมา เราก็ควรพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด เพราะเรากำลังทำหน้าที่เลือกนายกฯ ของประเทศไทย จะช่วยกันดูและคิดกันทั้ง 8 พรรค 

เมื่อถามว่าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ มองว่าควรจะรีบวินิจฉัยเพื่อให้เรื่องกระจ่างหรือไม่ ภูมิธรรม กล่าวว่า ขอไม่ก้าวล่วง ให้ว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และความเป็นจริงเป็นอย่างไร ค่อยพิจารณากันอีกที 

โดย ภูมิธรรม ได้กล่าวย้ำอีกครั้งภายหลังว่า ตอนนี้ยังไม่รู้จะหารือเรื่องอะไร และ ประเสริฐ กล่าวว่า "ใจเย็นๆ ต้องรอดูวันที่ 13 ก.ค. ก่อน" ขณะที่ ภูมิธรรม ได้แสดงความเห็นด้วย พร้อมบอกว่า "ต้องดูวันที่ 13 ก.ค. อาจโหวตทีเดียวแล้วได้หมดเลยก็ได้" 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะเริ่มการประชุม ได้มีการย้ายห้องประชุมถึง 3 ครั้ง โดยเมื่อวานนี้มีการแจ้งว่าจะประชุมที่ห้อง CB 403 ก่อนจะย้ายไปที่ห้องประชุมวิปรัฐบาล แต่เนื่องจากห้องยังไม่พร้อมต้องซ่อมแซม ทำให้ต้องย้ายอีกครั้งมาที่ห้อง CB 406 ทำให้การประชุมเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น. ล่าช้าจากกำหนดการเดิมราว 30 นาที