วันที่ 4 มี.ค. สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจการบริหารและการจัดการจราจรโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (พระรามที่ 2)
โดยจุดแรกคณะ รมว.คมนาคม เดินทางไปตรวจโครงการฯ บริเวณบนสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 และรับฟังการทางพิเศษแห่งประเทศไทย บรรยายสรุปเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก สัญญาที่ 3
จากนั้น รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ ว่า สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 จะเปิดให้ใช้ได้ช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ ซึ่งจะทำให้การสัญจรระหว่างสะพานพระราม 9 กับถนนสุขสวัสดิ์ ดีขึ้น เพราะจะแบ่งรถจากเดิมที่สัญจรบนสะพานพระราม 9 วันละ 1 แสนคัน มายังสะพานคู่ขนานประมาณ 3 หมื่นคัน
ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบนถนนพระรามสอง ผู้รับเหมาให้ความมั่นใจว่าจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2568 ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน โดยตนจะมีการเรียกผู้รับเหมามาพูดคุยติดตามทุก 2 เดือน
เมื่อถามว่า หากผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญา จะมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นหรือไม่ เพราะสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าการตัดเกรดอาจเป็นบทลงโทษที่ไม่รุนแรงเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล รมว.คมนาคม ระบุว่า ตนเชื่อว่าเมื่อข้อกำหนดดีแล้ว และหากรัฐบาลใหม่เข้ามา หากจะเปลี่ยนให้แย่กว่าเดิมรัฐบาลใหม่ก็คงไม่ทำ
เมื่อถามย้ำว่า โครงการทั้งหมดจะเสร็จมิถุนายน 2568 ใช่หรือไม่ รมว.คมนาคม ระบุว่า ”มิถุนายน 68 เรามาด้วยกัน“
จากนั้น รมว.คมนาคม เดินทางต่อไปตรวจสภาพจราจรบริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียนทางหลวงหมายเลข 35 กม.10 (ฝั่งขาออก) เพื่อตรวจดูการจัดจัดเรียงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกปลอดภัยในการจัดการจราจร
ต่อจากนั้นไปตรวจจุดคอขวดที่ กม.16 (ฝั่งขาออก) และ จุดสุดท้ายเดินเดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 รวมถึงการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ กรมทางหลวง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม
ช่วงหนึ่งระหว่างลงพื้นที่ตรวจสภาพจราจรบริเวณทางแยกต่างระดับบางขุนเทียนทางหลวงหมายเลข 35 กม.10 (ฝั่งขาออก) รมว.คมนาคม ระบุว่า บริเวณนี้เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้การจราจรติดขัด จนส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน ซึ่งตนได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดบริเวณคอขวดนี้ให้เสร็จภายใน 1 ปี
เมื่อถามว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรี เรียกอธิบดีกรมบัญชีกลาง เข้าไปหารือเมื่อเช้า ได้มีการกำชับอะไรเพิ่มเติม รมว.คมนาคม กล่าวว่า นายกฯกำชับว่าตอนนี้ที่ผู้รับเหมาทำงานช้ากว่าสัญญา ที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะมาตรการไม่เข้มข้น ซึ่งทางผู้รับเหมาเองก็สามารถต่อสัญญาไปได้และก็ทำไม่เสร็จ โดยขณะนี้ตนได้หารือกับนายกฯ จึงทำให้นายกฯได้คุยกับกรมบัญชีกลาง ว่าหากผู้รับเหมารายใดมีผลงานล่าช้าก็จะมีการลดชั้นจากพิเศษเหลือชั้นหนึ่ง