ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการ ครป.ห่วงม็อบชนม็อบ แนะตำรวจทำหน้าที่ดูแลควบคุมการใช้สิทธิการชุมนุมด้วยความปลอดภัย ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ลดการเผชิญหน้า ป้องกันมือที่สาม

เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงการชุมนุมของศูนย์กลางประสานงาน นักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศอปส.) ที่มาจัดชุมนุมที่เดียวกันกับกลุ่มประชาชนปลดแอก เนื่องจากบทเรียนของการตั้งใจจัดม็อบชนม็อบจะนำมาสู่การปะทะและความรุนแรงได้ และตนรู้สึกปวดหัวแทนตำรวจที่ต้องทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี

ต้องตำหนิผู้ดำเนินการวางแผนให้มีม็อบชนม็อบ เป็นปฏิบัติการข่าวสารอย่างหนึ่งที่ฝ่ายรัฐชอบทำเสมอ สร้างข่าวกลบข่าวคู่ขนานกันไป เพื่อต่อต้านข่าวกรองและลดทอนกระแสสูงของประชาชน เป็นความพยายามอย่างเป็นระบบในการปลูกฝังแง่มุมความคิดเห็น เบี่ยงเบนกระบวนการรับรู้และควบคุมพฤติกรรมโดยการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีปฏิกิริยาตอบสนองตามที่กำหนดขึ้น ซึ่งปัจจุบันใช้ไม่ค่อยได้ผลมากนัก เนื่องจากข้อมูลที่มากขึ้นในยุคเทคโนโลยีดิจิตอล

เลขาธิการ ครป. ระบุว่า โดยมารยาททางการเมือง การชุมนุมทางการเมืองแม้ถือเป็นสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่สามารถกระทำได้ทุกฝ่าย แต่ต้องไม่จัดซ้อนกัน จัดชนกัน แย่งพื้นที่กัน ใครประกาศก่อนย่อมได้สิทธิ์ชุมนุมก่อนฝ่ายหลัง และควรจัดการชุมนุมห่างกันในสถานที่ต่างกันเพื่อป้องกันการปะทะ หรือการปราศัยโจมตีกันในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงหรือใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชังจนทำให้เกิดความขัดแย้งและความรุนแรงในหมู่ประชาชน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องไปดูแล ควบคุม เพื่อให้ประชาชนใช้สิทธิการชุมนุมด้วยความปลอดภัยและไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยควรย้ายผู้ชุมนุมกลุ่มศูนย์กลางประสานงานนักศึกษาอาชีวะประชาชนฯ ไปถนนราชดำเนินนอก หรือหน้าทำเนียบรัฐบาลแทน โดยมีการสะกัดกั้นเส้นทางตรงกลางไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเข้ามาเผชิญหน้ากัน ถือเป็นการป้องกันมือที่สามไปในตัว 

นอกจากนี้ กลุ่มคนที่เห็นต่างไม่ต้องส่งคนไปเก็บข้อมูลในที่ชุมนุมอีกฝ่ายซึ่งจะกลายเป็นการปะทะและเผชิญหน้า โดยอ้างว่าเพื่อเก็บข้อมูลการละเมิดต่างๆ เพราะการทำงานในลักษณะนั้นเป็นบทบาทและอำนาจของตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของตนเองและอย่าสร้างเงื่อนไขน้ำผึ้งหยดเดียว ทุกฝ่ายทำหน้าที่เรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาที่ตนเองเรียกร้องก็พอ

สำหรับการชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอกในวันนี้ รัฐบาลควรเร่งรับฟังและแก้ไขตามข้อเรียกร้องโดยเร็วโดยใช้รัฐสภาแก้ปัญหา เพราะการชุมนุมของประชาชนขยายตัวมาจากรั้วมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่จัดชุมนุมมาหลายครั้ง แต่รัฐบาลยังไม่นำพาแก้ไขดำเนินการ แม้กระทั่งการเปิดเจรจาทางการเมือง เพื่อหาทางออกโดยสันติร่วมกันและเป็นข้อตกลงทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงและความขัดแย้งโดยเร็ว ก่อนที่ความขัดแย้งจะมีโอกาสยกระดับเป็นความรุนแรงที่มากขึ้นกว่านี้ ที่ผ่านมาประชาชนใช้ความอดทนอดกลั้นมานานแล้ว ก่อนปัญหาจะลุกลามบานปลายมาจนถึงวันนี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :