ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชขอาณาจักร (กอ.รมน.) วันนี้ (31 ตค.) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แถลงข่าวหลังการประชุมครั้งแรก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยระบุว่า บทบาทของ กอ.รมน.นอกเหนือจากการพิทักษ์รักษาสถาบัน และ สร้างความมั่นคงที่ถูกต้องแล้ว จึงอยากขอเพิ่มบทบาท กอ.รมน.หลังจากที่ได้พูดคุยกันกับกองทัพ อยากจะสร้างบทบาทอีกหลายมิติ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจ และสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประชาชน 

เศรษฐา กล่าวต่อว่า ความมั่นคงในวันนี้ ต้องรวมถึงความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต และเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนด้วย โดยเรื่องแรก ต้องช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ ให้ประชาชนประสานทุกหน่วยงาน บูรณาการพร้อมระดมสรรพกำลัง เครื่องมือของกองทัพ เข้าสนับสนุน และช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติ อย่างช่วงหน้าฝน น้ำท่วม และอีกไม่กี่เดือน ก็จะเกิดปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเอลนิญโญ่ ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ จึงอยากขอให้พัฒนากันในเชิงรุก

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า และเรื่องที่ 2 ที่เกริ่นว่าเป็น “เรื่องใหญ่” คือ เรื่องนี้ได้คุยกับกองทัพตั้งแต่วันแรกที่เข้าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน ได้เขียนออกมาเป็นรูปธรรม โดยการร่วมือจากการเมืองและกองทัพ เพื่อสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชน ร่วมแก้ปัญหาทางสังคมทั้งต้นเหตุ คือ ปัญหาที่ดินทำกิน โดยนำเอาพื้นที่ของหน่วยงานที่เกินความจำเป็นมาใช้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะการใช้ที่ดินเกษตร ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างรายได้ สร้างโอกาส สร้างความเข้มแข็ง 

“ผมขอชื่นชมกองทัพ ที่ดำเนินนโยบายนำเอาที่ดินภายใต้การดูแลของกองทัพ มาให้ประชาชนใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล โดยใช้เวลาเพียง 1 เดือนครึ่ง ได้พื้นที่มาถึง 9,276 ไร่ และจะส่งมอบให้ประชาชน ในวันที่ 25 ธค. ถือว่าเป็นของปีใหม่ที่ล้ำค่า ต่อประชาชนจากกองทัพไทย เรื่องนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะพัฒนาศักยภาพของประเทศ ด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนร่วมกันจัดสรรทรัพยากร โดยหวังว่าจะขยายไปในพื้นที่อื่นอีกด้วย” เศรษฐา กล่าว 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่ออีกว่า อีกช่วงเดือนกว่าๆ จะเข้าสู่ช่วง PM 2.5 กอ.รมน.มีบุคลากรที่มีความรู้ เปลี่ยนเอาใบไม้ใบหญ้า และวัตถุการเกษตร มาสร้างรายได้ให้กับประชาชน แทนที่จะถูกเผาให้เกิดฝุ่นพิษ จึงอยากขอให้ขยายผลอย่างจริงจัง 

“ตั้งแต่การแถลงข่าวที่ใช้เวลาทั้งหมด ไม่มีเรื่องไหนที่พูดถึงการจะยุบ กอ.รมน. ซึ่งตามความเข้าใจของผม กอ.รมน.สมัยก่อน มีไว้สำหรับการปราบปรามลัทธิคอมมิวนิสต์ ตอนนี้ไม่มีสิ่งนั้นแล้ว บทบาทจึงเริ่มเปลี่ยนไป และวันนี้ในการหารือ ก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องคอมมิวนิสต์แม้แต่เรื่องเดียว วันนี้เราคุยกันถึงเรื่องการพัฒนา ช่องว่างที่คนเข้าใจผิดระหว่างกองทัพให้น้อยลง ส่วนเรื่องการมอบที่ดินที่มอบให้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หลังจากนี้จะมีการนำพื้นที่อื่นมาใช้ประโยชน์อีก ขอย้ำว่ารัฐบาลนี้ไม่เคยมีความคิด หรือแม้แต่จะคิดที่จะยุบ เพราะไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลนี้ แม้แต่นิดเดียว” นายกฯ กล่าว

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล จะยื่น พ.ร.บ.ยุบ กอ.รมน. ในที่ประชุมสภาสมัยหน้า เศรษฐา กล่าวว่า ถ้าฟังเรื่องที่แถลงในวันนี้ หน่วยงานรัฐที่ทำงานได้รวดเร็ว พูดกันอย่างผู้ใหญ่ หลังจากรับประทานอาหารกับ ผบ.เหล่าทัพ ไป เราได้ขอแค่เรื่องเดียว เพียง 1 เดือนครึ่ง ก็ออกมาแล้ว ดังนั้นเรามาพูดกันเรื่องผลงานดีกว่า อย่ามาพูดถึงวาทกรรม เรื่องอื่นก็เป็นเรื่องของพรรคนั้นๆ ก็ให้เขาเข็นไปสู่สภาเอง ฝ่ายรัฐบาล กองทัพ และการเมืองที่เกี่ยวข้อง ขอทำงานอย่างเดียว 

ด้าน พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชขอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) กล่าวต่อว่า การใช้ที่ดินของกองทัพ ไม่เพียงแต่จะใช้ที่ดินของกองทัพบกเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงทุกหน่วยราชการในกระทรวงกลาโหม ก่อนหน้านี้ กองทัพบกเคยทำเรื่องที่จะส่งคืนพื้นที่ เมื่อปี 2552 ประมาณ 500,000 ไร่ แต่ด้วยระเบียบราชการ ทำให้เกิดความไม่พร้อมในการส่งคืน จึงส่งคืนได้เพียง 50,000 ไร่ และจากโมเดลที่นายกฯ​ให้แนวทาง จึงทำมาสู่ “หนองวัวซอโมเดล” ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนสิทธิ์ และร่วมกับกรมธนารักษ์ ในการสอบสวนสิทธิ์ และจะต้องเสร็จภายในวันที่ 25 ธค.

ขณะเดียวกัน จะมีพื้นที่อีก 3 พื้นที่คือ ของกองบัญชาการกองทัพไทย อยู่ที่บ้านแก่งปะลอง และบ้านพลุลวด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ 2,300 ไร่เศษ พื้นที่ต่อมา เป็นของกองทัพเรือ ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ประมาณ 300 ไร่เศษ พื้นที่ที่ 3 เป็นของกองทัพอากาศ ที่สนามบินนครพนม เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่เศษ

ภายหลัง นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแล้วเสร็จ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เชิญเศรษฐาไปดูห้องทำงาน ในฐานะ ผอ.รนม. ที่จัดเตรียมไว้ให้ที่ อาคารศูนย์ประสานข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่ง กอ.รมน. ได้มีการปรับปรุงห้องทำงานในขณะเดียวกัน ได้เตรียมห้องนอนให้กับนายกรัฐมนตรีอีกด้วย

ภายหลังจากที่ดูห้องทำงานเสร็จนายเศรษฐาระบุว่า ห้องทำงานรู้สึกเป็นสัดเป็นส่วนดีด้วย ส่วนจะเปลี่ยนใจจากการนอนที่ทำเนียบรัฐบาล กอ.รมน.หรือไม่ เศรษฐาไม่ตอบแต่ได้หัวเราะและยิ้มก่อนที่ นายเศรษฐาตะยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณผู้บัญชาการทหารบกและคณะที่มายืนรอส่ง ขึ้นรถกลับ

ด้านพลเอกเจริญชัย กล่าวว่าในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ชมอาคารต่างๆใน กอร.มน. ซึ่ง นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป็นอาคารเก่าที่ต้องอนุรักษ์ไว้ เช่นเดียวกับอาคารเพชรรัตน์ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ชมห้องนอน ที่ทาง กอ.รมน. จัดเตรียมไว้ให้แล้ว