วันที่ 18 เม.ย. 2565 สมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้านเปิดเผยว่า จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และคณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบฯ 2565 ครั้งที่ 2 โดยแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 49,619.73 ล้านบาท ซึ่งการกู้ครั้งนี้คาดว่าจะชนเพดานหนี้สาธารณะแล้ว ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไร้ความสามารถอย่างแท้จริง การจัดเก็บรายได้พลาดเป้า
”7 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกู้เงินทุกปีจนหนี้สินของประเทศสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย”
สมคิด ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า การกู้เงินรอบใหม่ของรัฐบาลชัดเจน ว่ากู้เพื่อมาบริหารความผิดพลาด ของการใช้งบประมาณที่ผ่านมา ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่ได้มาทำให้งบประมาณมีการหมุนเวียนสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้า เป็นการกู้เพื่อมาประทังชีวิต ต่อลมหายใจรัฐบาล ไม่ได้เกิดประโยชน์ในการลงทุนไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้
สมคิด กล่าวด้วยว่า แนะนำว่ารัฐบาลต้องมีการเตรียมโครงการที่ดี และโปร่งใส สามารถอธิบายได้ หากไม่มีโครงการอะไรที่จะก่อให้เกิดดอกผล จะกลายเป็นว่ากู้มาแจกจ่ายกันในส่วนของรัฐบาลไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลกู้เงินมา 2 ครั้งรวม 1.5 ล้านล้าน บอกจะมากู้เศรษฐกิจ ช่วยผู้ประกอบการ แต่ในความเป็นจริง เศรษฐกิจทรุดหนักกว่าเดิม ผู้ประกอบ การหลายรายเจ๊ง เพราะเข้าไม่ถึงเงินกู้ ที่รัฐจัดสรรให้
“การกู้เงินของรัฐบาลต้องตระหนักว่า ประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของเงิน ไม่ใช่เงินของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ยิ่งรัฐบาลกู้มากเท่าไหร่เจ้าสัวนายทุนที่สนับสนุนรัฐบาลยิ่งรวยเพิ่มขึ้น ขณะที่ประชาชนยากจนลง ถ้าจะกู้ ครั้งใหม่รัฐบาลต้องทำรายละเอียดให้ประชาชนทราบ อย่าใช้เพียงแค่กระดาษแผ่นเดียวเหมือนที่ผ่านมา อยากบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ สร้างภาระหนี้ให้ประเทศสูงสุดตั้งแต่มีประเทศไทย ถึงเวลานี้ชดใช้กันอีก 100 ปีชั่วลูกชั่วหลานก็ไม่หมดหนี้ อยากถามพล.อ.ประยุทธ์ว่า จะอยู่เพื่อสร้าง หายนะให้ประเทศไปอีกนานเท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหมาะจะบริหาร ประเทศต่อไปอีกแล้ว หากให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป ประเทศ ประชาชน ก็ไปไม่รอดอย่างแน่นอน” สมคิด กล่าว