ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า เมื่อวานตนได้ขึ้นไปพบและให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคฯ ซึ่งท่านก็อารมณ์ดีไม่มีความเครียดอะไร เราก็ต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นไปตามกลไก ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น 

เมื่อถามถึงความชัดเจนอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ธนกร ย้ำว่า เมื่อสุดท้ายแล้วมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงจะวางมือและพักผ่อน เพราะทำงานให้ประเทศมายาวนายตั้งแต่รับราชการทหาร เพร่าะในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้สร้างคุณประโยชน์ความดีให้กับประเทศมากมาย

ซึ่งตนก็เชื่อว่าประชาชนคนไทยได้เห็นกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ ไม่ว่าอย่างไรก็ท่านจะอยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศ ฉันไม่ได้ไปไหนมาตลอดระยะเวลาเพราะ ท่านไม่ได้ไปไหนเลยตลอดระยะเวลา 7-8 ปี แล้วตอนก็จะมีโอกาสได้ชวนท่านไปพักผ่อนบ้าง แต่ยืนยันว่าส่วนตัวจะยังคงอยู่ในเส้นทางการเมือง และถ้ามีอะไรก็จะไปปรึกษาท่าน 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะลาออกจากตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตนไม่มั่นใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็คงต้องอยู่ต่อไป เพราะมี ส.ส.ถึง 36 คน ฉะนั้นการทำงานในพรรคหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค พวกเราก็ยังสามารถทำงานด้วยกันได้ไม่มีปัญหาอะไร เราก็ยังทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลได้

ทั้งนี้ ธนกร ฝากว่า การจัดตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น ตนเห็นบรรยากาศคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ไม่ควรพูดจาเหน็บแนม หรือกระแนะกระแหน่ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ส.ส.ลูกพรรคก็ไม่ควรติงหน่วยงานบางหน่วยงานโดยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม เพราะการเลือกตั้งผ่านมาแล้ว ฉะนั้นก็ไม่ควรไปกุเรื่องว่าจะเกิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะว่ามันไม่จริง

ซึ่งวันนี้ท่านกำลังจะเป็นรัฐบาลก็ควรมีวุฒิภาวะที่มากกว่านี้ ไม่ควรไปพูดจาว่าร้ายหน่วยงานรัฐ พร้อมย้ำว่าตน พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านและให้เกียรติว่าที่รัฐบาล ซึ่งการเมืองก็ควรว่ากันไปไม่ควรสร้างวาทกรรมให้เกิดความขัดแย้ง โดยฝ่ายศาลและฝ่ายรัฐบาลทำงานร่วมกันได้ เพียงแต่มีคนละบทบาทหน้าที่

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์จะวางมือภายหลังจากได้รัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ ธนกร ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดตนแค่คิดเองว่าเมื่อท่านไม่ได้อยู่ในจุดนี้ท่านก็ควรมีเวลากับครอบครัวเหมือนประชาชนคนไทยปกติ ซึ่งตนได้พูดกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่ายินดีจะทำงานให้ตลอดชีวิต เพราะท่านมีความเมตตากับผม พร้อมย้ำว่าที่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านอารมณ์ดีมาก เพราะการเมืองมันเป็นอย่างนี้อยู่แล้วมีแพ้มีชนะ 

อย่างไรก็ตาม ธนกร ระบุว่า ประชาชนควรให้รัฐบาลใหม่ได้แสดงฝีมือ เพราะเราก็เห็นตัวอย่างมาแล้วในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้รับคะแนนท่วมท้นเหมือนกัน แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องให้เกียรติประชาชน เมื่อเลือกพรรคก้าวไกลมาเยอะ ก็ต้องให้เขาแสดงฝีมือบริหารประเทศ นโยบายหลายอย่างก็ทำไป 

เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาล 310 เสียง จะมีความเข้มแข็งพอหรือไม่ ธนกร ระบุว่า รัฐบาล 300 กว่าเสียงย่อมไปได้อยู่แล้ว แต่ตนวิเคราะห์ว่ายังพอมีเวลาอยู่ พรรคเพื่อไทยแพ้แค่ 10 เสียงเอง เขาคงให้โอกาสพรรคที่ชนะก่อน เพราะถ้าตั้งไม่ได้ พรรคอันดับ 2 ก็ตั้งได้ เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา แล้วตนเชื่อว่าพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องคิดไปถึงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศ เขาไม่น่าจะไปสุด ซึ่งยังมีเวลาอีก 2-3 เดือนในการจัดตั้งรัฐบาล 

เมื่อถามว่า ถ้าการเลือกตั้งในสภาไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ ธนกร กล่าวว่า ไม่ขอไปกล่าวล่วงพรรคเขา แต่เรา 36 เสียง ตนหนึ่งในนั้น ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ก็รอให้เขาจัดตั้งไปก่อนไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ และ ส.ว.ก็มีฉะนั้นอย่าไปดูแคลนท่านมากเกินไป

"ส.ว.ท่านก็มีหัวจิตหัวใจ บางทีไปดูแคลนเขามากเกินไป แล้วอยู่ๆจะให้เขาช่วยโหวตให้ ผมคิดว่ามันก็ต้องดู"

เมื่อถามถึงกระแสขอให้พรรคการเมืองสนับสนุนให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีมีความเป็นไปได้หรือไม่ ธนกร ถามกลับว่า ทำไมตนต้องยกมือให้ ผมไม่ได้เห็นด้วยกับนโยบายของท่านนิ ผมเป็นหนึ่งใน 36 เสียงที่ไม่ได้เห็นด้วยกับท่านตั้งแต่แรก ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะไปยกมือให้ท่าน พร้อมย้ำว่าท่านก็ตั้งให้ได้แล้วกัน ผมก็คิดว่าท่านก็ตั้งได้ แต่สุดท้ายจะได้หรือไม่ได้ 2-3 เดือนก็รู้ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคพวกฝ่ายค้านก็สามารถตั้งได้ พรรคอันดับ 1 ตั้งไม่ได้ อันดับ 2 ใครรวมเสียงข้างมากได้ก็ตั้งรัฐบาลไปก็เท่านั้นเอง 

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปอยู่ในสมการนี้หรือไม่ ธนกร ระบุว่า เรื่องนี้ตนตอบแทนพรรคไม่ได้ แต่ก็คิดว่าพรรคที่ได้อันดับ 2 มีโอกาสจะตั้งรัฐบาล เพราะจากที่ดูแถลงการณ์ต่างๆ ยังไม่เห็นชัดเลยว่าจะไปด้วยกันได้ ต้องดูเงื่อนไขและ MOU ก่อน เพราะถ้าเงื่อนไขและ MOU มันไปด้วยกันไม่ได้ แล้วมันจะไปต่อได้อย่างไร แต่ขอย้ำว่าตนไม่ขอไปก้าวล่วงฝ่ายที่มีเสียงข้างมากก็ให้ว่ากันไป พวกผมได้เสียงไม่เยอะก็ว่ากันไป