ไม่พบผลการค้นหา
'ลิณธิภรณ์’ รักษาการรองโฆษกเพื่อไทย จี้ 'ประยุทธ์’ ต้องมีคำตอบกรณีสารวัตรคลั่ง เหตุปฎิรูปตำรวจเหลว สังคมป่วยวิกฤตต้องมีมืออาชีพแก้

วันนี้ (16 มีนาคม 2566) ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอการแสดงความเสียใจกับครอบครัวสารวัตรที่เสียชีวิตวานนี้ ทั้งนี้ได้มีการเผยแพร่ภาพภายในบ้านสารวัตรพบอุปกรณ์คล้ายกับที่ใช้ในการเสพยาและกัญชา พร้อมทั้งปรากฎคลิปภาพสารวัตรคนดังกล่าวขณะอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง มีการกล่าวอ้างถึงการค้ายาเสพติดที่ทำให้ลูกหลานติดยา แม้ในขณะนั้นสติสัมปชัญญะจะไม่สมบูรณ์ด้วยเหตุผลอื่นใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าการระบาดของยาเสพติดที่มีมาอย่างต่อเนื่องหลายปีโดยไม่เอาจริงเอาจังจัดการให้สิ้นซากส่งผลร้ายแรงจนทำให้สังคมป่วยหนัก กระทบต่อสถาบันครอบครัว ประเทศชาติ และอนาคตของชาติไม่มีที่สิ้นสุด 

1030179.jpg


กรณีของสารวัตรเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากกรณีก่อนหน้าที่ไม่มีการจัดการแก้ไข ในระยะเพียง 3 ปี เกิดเหตุกราดยิงจากตำรวจหรือทหาร มากกว่า 5 ครั้ง เช่น จ่าคลั่งกราดยิงโคราช เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 63 , เหตุกราดยิงโรงพยาบาลสนาม เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64 , เหตุกราดยิงวิทยาลัยการทัพบก เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 ,อดีตพลทหารยิงผู้โดยสารบนรถบัส เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2565 ,โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 65 และล่าสุดสารวัตรคลั่งเมื่อวันที่ 14 มี.ค.66 ที่ผ่านมา


ความเดิมยังไม่ทันหาย ปัญหาใหม่ที่ไร้การควบคุมอย่างกัญชาที่มีขายอย่างแพร่หลายก็ยังไม่ถูกแก้ ทั้งหมดคือความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อรวมเข้ากับกัญชาเสรี ที่ถูกเสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ที่ยังคงภูมิใจกับกัญชาที่ไร้มาตรการจำกัดการใช้อย่างถูกต้อง ยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น ยังไม่รวมกับปัญหาโครงสร้างด้านการป้องกัน การแก้ไข การบำบัด และการจำกัดยาเสพติดให้หมดไปจากสังคม การปฏิรูปตำรวจที่ล้มเหลว หากปล่อยไว้ และยังให้โอกาสพลเอกประยุทธ์กลับมาอีก คงยากที่อนาคตของชาติจะเป็นไปในทิศทางที่ดีได้ 


ลิณธิภรณ์ ยังกล่าวอีกว่า มีคำถามจากสังคมว่า ตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้อง ดูแลประชาชน และเป็นผู้ถือกฎหมาย เหตุใดจึงมีการเข้าถึงยาเสพติดได้ง่าย และยังมีเกิดสถานการณ์ ‘แกะดำ’ บ่อยครั้ง ตำรวจที่กระทำการอุกอาจในหลายกรณี มีความคับแค้นใจ เกิดภาวะกดดันและเครียด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความรู้สึกไม่ยุติธรรมในการโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือมีความเกี่ยวพันกับการส่งส่วยกันใช่หรือไม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ กำกับดูแล มีการตอบสนองต่อเหตุการณ์มากน้อยแค่ไหน พลเอกประยุทธ์ต้องมีคำตอบให้กับเรื่องนี้ในฐานะที่อาสาเข้ามาบริหารประเทศ 


ทั้งนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นหากดำเนินการโดยมืออาชีพอย่างพรรคเพื่อไทย ที่มีดีเอ็นเอปราบปรามยาเสพติดจากพรรคไทยรักไทย เข้ามาจัดการป้องกัน แก้ไขและบำบัดผู้ติดยาเสพติด ความสูญเสียคงไม่ลุกลามบานปลาย หรือแม้แต่ปัญหาการทุจริตจ่ายใต้โต๊ะส่งส่วยคงไม่ระบาดหนัก หากนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ป้องกันปัญหาคอร์รัปชั่นในวงราชการได้ตั้งแต่ต้นทาง รวมไปถึงการปฏิรูปทหารให้เป็นทหารอาชีพ และทันสมัย ซึ่งทั้งหมดพรรคเพื่อไทยได้เตรียมวิธีการเอาไว้แล้ว 


‘นับตั้งแต่เกิดโศกนาฏกรรมหลายกรณี หลายปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ที่ใกล้จะหมดวาระ พลเอกประยุทธ์ยังคงเมินเฉย ละเลยปัญหา อย่างนี้หรือจะกลับมาขอทำต่อ ทำอีก เพราะแม้แต่ความรู้สึกร่วมไปกับความเดือดร้อนสูญเสียของพี่น้องประชาชนยังแทบจะไม่มี จะเอาความสามารถเท่าที่มี ทำได้อย่างไรไหว” ลิณธิภรณ์ กล่าว