ป่วยด้วยโรคมะเร็งรักษาตัวมาแรมปี ล่าสุด นายสนธิชัย ประสานชาติ หรือ ‘เสี่ยวอี้’ อายุ 49 ปี ศิลปินชาวจังหวัดชัยภูมิ ผู้คิดค้นคิด ‘อีต้าร์อี้’ เครื่องดนตรีลูกผสมอีสานพื้นบ้านและเครื่องดนตรีสากลโพสต์สะเทือนใจอัพเดทอาการป่วยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เซลล์มะเร็งลุกลามหนัก เหลือเวลาอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เผยกำลังใจยังดี
“ผลซีทีสแกนเซลส์มะเร็งเล่นงานลุกลามช่องท้องเข้าสู่ตับทั้งสองข้างแพทย์แผนปัจจุบันหมดทางรักษาบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน แต่กำลังใจยังดีอยู่ยังมีแพทย์ทางเลือกสมุนไพรที่จะเยียวยาบรรเทาอาการต่อไป”
“อย่างน้อยยังมีความหวังมีพลังกำลังใจจากกัลยาณมิตรมากมายมอบให้ อย่างน้อยยังมีเวลาเตรียมตัวก่อนที่จะถึงวันนั้นของทุกคนแล้วแต่วาระของใคร อย่างน้อยให้รู้ว่าที่ผ่านมานั้นเราก็มีความดีที่ทำไว้บ้างให้แผ่นดินยังมีคนรักเราอยู่และยังมีเวลาบอกรักกันอีกในช่วงเวลาที่พูดคุยไถ่ถามทักทายกัน”
“1 กุมภาพันธ์ 63 นี้มีกิจกรรมพิเศษเฉพาะกิจ ขุนสมานถึงเสี่ยวอี้ พี่ให้น้อง พร้อมศิลปินอีกคับคั่ง รวมหัวใจมามอบให้ถึงที่ เรียนเชิญมิตรพี่น้องผองเพื่อนนะครับบัตร 300 / 1ท่าน &โต๊ะ1200 / 4ท่าน ขอบคุณมากครับสอบถาม082 1318129 หรือ091 8319680 (หวาน)”
สำหรับ สนธิชัย ประสานชาติ หรือ ‘เสี่ยวอี้’ ศิลปินชาวชัยภูมิ มีกิจการเป็นเจ้าของร้านเสี่ยวอี้ปลาเผา ตั้งอยู่ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว (หมายเลข 201) ก่อนถึงตัวเมืองชัยภูมิ ประมาณ 1 กม. เกิดที่อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ เป็นคนชอบดนตรีตั้งแต่เด็ก จบการศึกษาระดับ ปวช. ด้านศิลปะ ที่เทคโนฯโคราช แผนกศิลปกรรม (ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน จ.นครราชสีมา) เคยไปพักอยู่ที่หมู่บ้านด่านเกวียน จ.นครราชสีมา กับ ‘สมาน แสงธรณ์’ รุ่นพี่ ที่เป็นช่างปั้น และเป็นศิลปินนักดนตรีเพื่อชีวิต ‘วงด่านเกวียน’ เพื่อหัดเล่นดนตรี พร้อมทำงานศิลปะงานปั้นไปพร้อมกัน เคยออกอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเองเมื่อปี 2537 แม้ไม่โด่งดัง แต่ก็ภูมิใจที่ได้ทำเพลงแนวเพื่อชีวิตตามแนวทางรุ่นพี่ ด้วยฝีมือทางช่างศิลปะ เสี่ยวอี้ คิดค้นเครื่องดนตรีชิ้นใหม่ของโลกทำจากไม้ขนุนแห้งได้สำเร็จ ตั้งชื่อว่า ‘อีต้าร์อี้’ (E’tar-E) โดยการนำเครื่องดนตรี 2 อย่างมาผนวกกัน คือ “อีเต็ง” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “พิณ” มี 3 สาย และการนำ “กีตาร์” ซึ่งมี 6 สาย มาผสมผสานเข้าด้วยกันจนได้เป็นเครื่องดนตรี 4 สาย สามารถเล่นได้ทั้งเพลงพื้นบ้านอีสาน และเพลงสากล โดยการออกแบบคอร์ดขึ้นมาใหม่ ทดสอบตามจินตนาการจนสามารถเขียนเป็นตารางคอร์ดได้ เป็นที่ยอมรับระดับสากลว่าเป็นเครื่องดนตรีชิ้นใหม่ของโลก และสามารถเล่นได้กับเครื่องดนตรีสากลทุกชิ้น
ส่วนที่มาของคำว่า ‘E’tar-E’ E ตัวแรกก็คือ อีเต็ง หรือ อีสาน , tar ก็คือ ต้าร์ หรือกีต้าร์ ส่วน E ตัวท้ายก็คือ ชื่อเล่นของตัวเอง ‘อี้’ หรือ ‘เสี่ยวอี้’ ที่ผ่านมามีศิลปินทั้งชาวไทย และต่างประเทศสั่งทำราคาตัวละ 25,000 บาท นอกจากนี้เสี่ยวอี้ยังเคยได้รับเกียรติให้นำอีต้าร์อี้ขึ้นไปโซโล่เคียงข้าง ‘น้าแอ๊ด คาราบาว’ บนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ของคาราบาวมาแล้ว