จากกรณีที่ นรินทร์ (สงวนนามสกุล) จำเลยคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำสติ๊กเกอร์โลโก้ "กูKult" เพจเสียดสีการเมืองไปติดบนพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 บริเวณหน้าศาลฎีกาในการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 63
ล่าสุดศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าวในวันที่ 4 มี.ค. เวลา 09.00 น. หลังศาลอาญานัดสืบพยานโจทก์ระหว่างวันที่ 22-24 ก.พ. และวันที่ 1 มี.ค. 65
'iLaw' รายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่กระบวนพิจารณาคดี ศาลขอให้ทั้งโจทก์และจำเลยตัดพยานผู้เชี่ยวชาญออกทั้งหมด เพราะประเด็นในคดีนี้ศาลมีความเห็นเองได้ไม่ใช่ประเด็นทางเทคนิคที่จำเป็นต้องอาศัยความคิดเห็นจากพยานผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากศาลเห็นว่า การติดสติ๊กเกอร์ในที่ที่ไม่ควรติดเช่น การนำสติ๊กเกอร์อะไรก็ตามไปติดบนพระพุทธรูปซึ่งคนทั่วไปให้ความเคารพบูชาและเห็นว่าไม่ควรนำไปติดก็ถือว่า เป็นการกระทำความผิดแล้ว พร้อมระบุว่า ศาลพอจะทราบอยู่ว่าเพจ กูkult เป็นเพจอะไร แต่ความหมายของข้อความไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นอยู่ที่การติดสติ๊กเกอร์ในที่ไม่สมควรติด จึงขอให้อัยการตัดพยานผู้เชี่ยวชาญและตัดการนำสืบในประเด็นการพิสูจน์ความหมายของข้อความบนสติ๊กเกอร์ออกไป
สุดท้ายแล้วในคดีนี้มีการสืบพยานโจทก์ไปทั้งหมด 12 ปาก เป็นพยานเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ทั้งอดีต ผู้กำกับ สน.ชนะสงคราม ตำรวจฝ่ายสืบสวนทั้งของ สน.ชนะสงคราม, ฝ่ายสืบสวนนครบาล และ ตำรวจสันติบาล รวมไปถึงตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชกรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ซึ่งมาเบิกความในประเด็นการยืนยันว่า นรินทร์เป็นผู้นำสติ๊กเกอร์ไปติดพระบรมฉายาลักษณ์จริง ๆ เท่านั้น
หลังนรินทร์แถลงไม่ประสงค์นำสืบพยานฝ่ายจำเลยในวันที่ 1 มี.ค. 65 ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 4 มี.ค. 65 ทันที ซึ่งข้อนี้ทนายจำเลยตั้งข้อสังเกตว่า "ศาลนัดวันฟังคำพิพากษาเร็วมากหากเทียบกับการทำงานปกติทั่วไป" ซึ่งศาลมักนัดจำเลยฟังคำพิพากษาหลังสืบพยานแล้วเสร็จประมาณ 15 วัน หรือหนึ่งเดือน
อ่านรายงาน 'iLaw' เต็มๆ ได้ที่นี่: https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10166382944195551/