เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมเวทีเสวนา ‘มิสแกรนด์’ กับ ‘อนาคตเมืองไทย’ หลังเลือกตั้งปี 66 โดยนายแพทย์ชลน่านได้ตอบคำถามแรกของผู้ดำเนินรายการ ที่ถามว่า ‘ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทยจะทำอะไรให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้นบ้าง และจำอะไรกับคนที่โกงหรือคอร์รัปชันที่ผ่านมาและเรารู้สึกย่ำแย่’ ว่า เลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญ เป็นโอกาสเดียวที่ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ตอนนี้คาดว่าพรรคน่าจะได้ ส.ส. ถึง 250 คน แต่ยังไม่เพียงพอ

"หากต้องการออกจากวิกฤต ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะเด็ดขาด จึงกำหนดหมุดหมายใหม่ที่ 310 เสียง หากได้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ จะสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ พรรคเสรีประชาธิปไตยพร้อมสนับสนุนหรืออาจยินดีโหวตให้เรา หรือ ส.ว.เกิดจิตสำนึกที่ดี อาจช่วยเลือกนายกรัฐมนตรีจากประชาชน เป็นการถอดสลักกับดักกติกาออกไป กลับสู่การเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงจากเสียงพี่น้องประชาชน" นายแพทย์ชลน่านกล่าว

พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนไทยทุกคน คิดใหญ่เรื่องแรก ประชาชนคิดใหญ่ร่วมกับเพื่อไทย เราตกอยู่ภายใต้กับดักประชาธิปไตยที่ไม่แท้จริง จอมปลอม จึงต้องช่วยกันคิดใหญ่ ขอชวนประชาชนจับมือกับเพื่อไทย เพื่อออกจากกับดักตรงนี้ ให้แลนด์สไลด์ถล่มทลาย

"พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่เสนอนโยบายแล้วทำได้ พี่น้องประชาชนต่างบอกว่าเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ สัมผัสได้ เข้าถึงเข้าใจ โดยมีนโยบายที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนได้" นายแพทย์ชลน่านกล่าว

นายแพทย์ชลน่านกล่าวอีกว่า โดยนโยบายสำคัญ ได้แก่ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เริ่มขับเคลื่อนในปี 2545 ระบบเทคโนโลยีในเวลานั้นยังไม่ทันสมัย พรรคเพื่อไทยจะยกระดับใหม่ให้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพ ถือบัตรประชาชนใบเดียวรักษาที่ไหนก็ได้ สะดวกที่ไหนรักษาที่นั่น ต่อยอดเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกมากขึ้น พร้อมปรับโครงสร้างของการบริหารการแพทย์และสาธารณสุข โรงพยาบาลรัฐและเอกชนจะเป็นโรงพยาบาลของประชาชน ส่วนนโยบายด้านการรักษา จะเจาะในปัญหาระดับชาติ เช่น มะเร็งเต้านมและปากมดลูกเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 และ 2 ของผู้หญิง เพื่อลดอัตราการสูญเสีย พรรคเพื่อไทยมีนโยบายฉีดมะเร็งปากมดลูกให้กับลูกหลานผู้หญิงอายุตั้งแต่ 9-11 ขวบ

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายใหม่ที่เอาปัญหาจากพี่น้องประชาชนมาตอบโจทย์ด้วยนโยบาย มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นอันดับแรก ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาสให้พี่น้องประชาชน หากครอบครัวไหนที่มีรายได้ต่อครัวเรือนต่ำกว่า 20,000 บาท เพื่อไทยจะเติมเต็ม ให้อิ่มท้อง และเติมเต็มด้วยนโยบายสร้างรายได้ใหม่ให้ในทุกมิติ

นโยบายด้านการศึกษา Life ling leaning life long earning ลูกหลานแต่ละคนมีความสำคัญและมีศักยภาพของตัวเอง เพราะฉะนั้น นโยบาย Soft Power 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ เติมเต็มเพิ่มทักษะงานทักษะสูง ซึ่งประเมินแล้วคาดว่า 1 ปี สร้างรายได้ 2 แสนบาท

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า หากได้เสียงข้างมากจากพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหา ทำงานให้บ้านเมือง สร้างงาน สร้างรายได้ ยาเสพติดถูกปราบ เกิดสันติสุขแล้ว ต้องคืนวิถีประชาธิปไตยให้พี่น้องประชาชน เราจะจัดทำรัฐธรรมนูญที่มาจากพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

“สิ่งที่พูดมาจะไม่เกิดขึ้นเลย การได้เสียง 260 หรือ 280 อาจจะแลนด์สไลด์ แต่จะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ถ้าต้องการปลดล็อกตรงนี้ ต้องช่วยกัน อย่าปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป” นายแพทย์ชลน่านกล่าว

ในช่วงท้าย มิสแกรนด์จากจังหวัดต่างๆ ได้ทยอยตั้งคำถามในประเด็นต่างๆ เช่น มิสแกรนด์ลพบุรี ถามว่า เศรษฐกิจในตอนนี้การปรับขึ้นเงินเดือน เพิ่มขึ้นจากตรงไหนและเท่าไหร่ จะมีวิธีการนำเสนอนโยบายอย่างไร นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเสนอค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ภายใน 4 ปี พร้อม สร้างงานสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน มุ่งเน้นรดน้ำที่ราก ให้เศรษฐกิจฐานรากต้องโต GDP โต 5% ต่อปี ตอนนี้ GDP โตเพียง 1.8-2.4% เมื่อเศรษฐกิจโตทั้งระบบ การปรับเงินเดือนทำได้ ครัวเรือนใดที่ต่ำกว่า 20,000 บาท เติมเต็มใน 6 เดือน - 1 ปี มีกระเป๋าเงินดิจิทัล ให้เกิดการใช้งานและการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ส่วนนโยบายด้านสุขภาพ พรรคเพื่อไทยมุ่งเติมเต็มสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานการดูแลรักษาพยาบาล คำนึงถึงสิทธิที่จะได้รับอย่างเท่าเทียม จึงยกระดับสิทธิประโยชน์ของบัตรทองขึ้นมา ให้ได้มาตรฐาน ความเสมอภาค ความเท่าเทียม

มิสแกรนด์สระแก้ว ตั้งคำถามว่า หากเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะมีวิธีการดำเนินการกับระเบียบราชการครูข้อที่ 16 ประจำปี 2504 ห้ามสตรีประกวดนางงามอย่างไร นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปดูรายละเอียด ซึ่งต้องอยู่บนพื้นฐานการใช้สิทธิในการคุ้มครองสิทธิเท่าเทียมกัน

ส่วนคำพูดของนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่า ประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ และไม่ใช่ธุรกิจของคนไทยนั่น ขอขอบคุณกับคำกล่าวนี้ เพราะคำพูดนั้นทำให้การเปิดตัวของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับความสนใจ แต่เป็นคำพูดที่ไร้ความเข้าใจมิติของประเทศ ทั้งมิติของธุรกิจและเศรษฐกิจที่เป็นองค์ประกอบหนึ่ง เวลาที่พูดออกมาเกิดผลกระทบ ความเสียหาย ความอับอาย ในฐานะผู้นำประเทศ คำพูดเป็นหน้าตาของประเทศ ต้องเห็นแก่ประเทศ ต้องคิดต้องไตร่ตรอง คือภาวะผู้นำ ไม่เพียงแต่คิดจะโต้ตอบเอาสะใจอย่างเดียว

ส่วนกรณีถ้าได้เป็นรัฐบาล จะแก้ปัญหาจากภาระหนี้สินที่รัฐบาลปัจจุบันสร้างไว้อย่างไร นายแพทย์ชลน่านกล่าวว่า ปัจจุบัน ภาระหนี้ประเทศไทยสูง หนี้สาธารณะ 68-69% หนี้ครัวเรือน 89% รวม 14-15 ล้านล้านบาท GDP เพียง 17 ล้านล้านบาท และหนี้นอกระบบสูง เพื่อไทยจึงวางแนวทางลดรายจ่าย แก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ รวมถึงพักต้นพักดอกให้กับเกษตรกร 3 ปี เพื่อให้แข็งแรงและมีรายได้ จึงมาจ่าย พรรคเพื่อไทยจะแก้หนี้ด้วยการสร้างรายได้ ไม่ได้กู้เงินมาเติมเต็ม หนี้สาธารณะ 10 ล้านล้านบาท การแก้หนี้ขณะนี้ใช้จากงบประมาณแผ่นดิน ปีนี้ 3.3 ล้านล้านบาท ถ้าไม่มีความสามารถในการจัดเก็บรายได้ หรือฐานภาษีแคบ โอกาสในการแก้ให้หมดไปจะทำได้ยาก

ส่วนคำถามของมิสแกรนด์ ต่อการดูแลและปกครองกระทรวงกลาโหม ควบคุมดูแลหัวหน้ากองทัพ จะทำอย่างไรให้คนไทยมั่นใจว่าจะเอาทหารอยู่ ไม่มาปฏิบัติรัฐบาลของประชาชนได้ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ประเทศไทยตอนนี้มีประชาธิปไตยไม่แท้จริง มีอำนาจที่ซ่อนเร้นอยู่ ดังนั้น ต้องไปดูที่รากเหง้าของปัญหา หากเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ 310 เสียง จะปิดกั้นเงื่อนไขแห่งการแอบอ้างที่ใช้มาตลอด ทั้งคอร์รัปชัน หมิ่นเบื้องสูง ทุจริต ส่วนกระบวนการบริหารราชการแผ่นดิน เวลานี้ยังไม่เอื้อรัฐบาลพลเรือน โครงสร้างเหล่านั้นต้องถูกปรับแก้ทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย