ไม่พบผลการค้นหา
ปั้นจั่น ปรมะ เปิดใจครั้งแรก ขอโทษที่โพสต์โซเชียลไม่ทันคิด #อยากแปลกไม่แดกคนละครับ น้อมรับผิด ไม่ตั้งใจไปกระทบใคร แค่อยากอนุรักษ์สัตว์ทะล พร้อมนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไปเป็นบทเรียนในการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค

กลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อนักแสดงหนุ่ม ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย วัย 32 ปี ออกมาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการนำปลากระเบนมาทำอาหาร ในรายการ มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ พร้อมติดแฮชแท็ก #อยากแปลกไม่แดกคนละครับ จนเกิดกระแสตีกลับในโลกโซเชียล ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ต่อว่านักแสดงหนุ่ม ว่าไม่เคารพผู้ใหญ่ในรายการ และเหมือนเป็นการดิสเครดิตช่องคู่แข่ง พร้อมขุดคุ้ยรายการ ที่ปั้นจั่น เคยเป็นพิธีกร ว่าเจ้าตัว ก็เคยนำหูฉลาม มาทำเป็นอาหาร ทั้งๆ ที่เป็นสัตว์ที่มีการรณรงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์

ล่าสุด ปั้นจั่น ปรมะ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ เปิดใจ ถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า "ผมต้องขอโทษด้วย สำหรับแฮชแท็ก ที่อาจจะทำให้ไปกระทบความรู้สึกของแฟนรายการ แฟนคลับรายการ รวมถึงผู้เข้าแข่งขัน หรือคณะกรรมการที่มีคุณวุฒิทั้งหลาย บอกด้วยความจริงใจเลยว่า ตอนที่เขียนไม่ได้มีเจตนานะครับ ที่จะไปก้าวล่วง หรือทำให้รู้สึกไม่ดี หรือไปต่อว่า มันเหมือนเวลาเขียนแฮชแท็กอะไร มันต้องทำให้ดูน่าสนใจ ผมอาจจะต้องขอโทษด้วยว่า ผมอาจจะคิดน้อยไปหน่อย และก็ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม อันนี้ก็จะเป็นบทเรียนให้ผม ในการเล่นโซเชียล หรือ ทวิตเตอร์ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ก็คงต้องระมัดระวังมากกว่านี้ ไม่ใช้คำหยาบคายที่ทำให้ส่งผลกระทบ ต่อความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว โดยส่วนตัวแล้ว สิ่งที่ผมพูดไป ผมก็รู้สึกจากใจจริงๆ"


ปั้นจั่น ปรมะ

กับการที่โลกโซเชียลมองว่ากำลังเป็นการดิสเครดิตช่องคู่แข่ง

"ต้องพูดตรงๆ ว่าไม่ได้แก้ตัว ตัวผมเองผมติดตาม มาสเตอร์เชฟมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ซีซั่นนี้ผมไม่ได้ดู โดยปกติผมจะติดตามในยูทูป ผมไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นของช่องไหน ผมเห็นข่าว ผมรู้สึกว่ามันสะเทือนใจผม เพราะว่าผมเองรักธรรมชาติ ชอบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ต้องขอโทษด้วยครับ"

หลังจากโพสต์ข้อความ รู้สึกอย่างไร กับกระแสที่ตีกลับมาหา ปั้นจั่น

"ที่จริงผมก็ตกใจนะครับ จากเรื่องหนึ่ง สำหรับผมแล้ว มันถูกกลายเป็นผมไปดิสเครดิตอีกช่องหนึ่ง ผมพูดตรงๆ ว่า เราอยู่วงการเดียวกัน ผมทราบดีเรื่องของมารยาท และไม่เคยคิดว่าช่องไหนที่จะมานั่งดิสเครดิตกัน เพราะทุกช่อง ผมทำงานกับทุกที่ และผมรู้จักกับผู้ใหญ่ในสาขาต่างๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะส่งผลกระทบ ที่สำคัญตอนนี้มันส่งผลกระทบไม่ใช่เฉพาะตัวผมคนเดียว แต่คนที่อยู่รอบตัวผมด้วย ยังไงก็ขอโทษ และขอให้เข้าใจผมด้วย ในสิ่งที่ผมทำไป ให้อภัยผมด้วย ไม่อยากให้ไปถามหรือหาอะไรก็แล้วแต่กับคนอื่น ถ้าหากว่ามีอะไรก็ขอให้มาที่ผม ให้ผมเป็นคนพูดเป็นคนอธิบาย เพราะว่าคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับการลงโซเชียลของผมในครั้งนี้"


ปั้นจั่น ปรมะ

ส่วนประเด็นโลกออนไลน์มีการนำภาพรายการ ที่ปั้นจั่น เคยทำรายการอาหารเกี่ยวกับหูฉลาม ซึ่งเป็นสัตว์ที่กำลังรณรงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์

ปั้นจั่น เผยว่า "รายการนั้นที่นำออกมา เป็นเทปส่งมาจากญี่ปุ่น ผมเป็นคนบอกเล่า ผมไม่ได้เป็นคนไปชิม แต่ถ้าถามว่าปั้นจั่นเอง เคยรับประทานหูฉลามหรือเปล่า ผมเชื่อว่า 90 เปอร์เซ็นต์คนในเอเชีย เคยทานหูฉลามกันหมด แต่ ณ วันนั้น เราเคยทาน แต่ ณ วันนี้ เราหยุดทาน มันเหมือนกับวันนี้เรายังกินเนื้ออยู่ แล้ววันนี้เราหยุดกินเนื้อ ผมก็ต้องขอโทษแล้วกัน มันอยู่ที่วิจารณญานแต่ละคนว่าจะหยุดหรือ จะกิน เราไม่สามารถไปห้ามใครได้ เราก็แค่บอกต่อ แล้วก็รณรงค์ ถ้าเขายังไม่เลิก ก็ไม่ใช่ความผิดนะครับ เพราะว่ายังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกปกป้อง แล้วก็ไม่ได้อยู่ใน พ.ร.บ.คุ้มครอง สำหรับตัวผมเอง ผมไม่กล่าวโทษใครทั้งนั้นนะครับ สิ่งที่ผมทำไปไม่ได้มีเจตนาไปสื่อให้ใครเสียความรู้สึก สำหรับตัวผมเองบางทีสำหรับคนรักสัตว์ เวลาพูดถึงเรื่องนี้ เราก็จะรู้สึกสะเทือนใจและกระทบจิตใจค่อนข้างมากครับผม"

เครียดไหม กับ กระแสที่เกิดขึ้น

ก็มีเครียดนะครับ ทุกคอมเม้นต์หลายๆคนไม่ให้อ่าน แต่สำหรับผมเองอดไม่ได้ที่จะอ่าน และผมก็รู้ว่าทุกคอมเม้นต์ ผมต้องอ่าน และผมจะได้จดจำมาเป็นบทเรียนว่าผมจะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร และเรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้นในชีวิตผมอีก ผมกล้ารับปาก เพราะว่าผมจะไม่แตะต้องอะไรกับโซเชียลอีกแล้ว เพราะผมรู้สึกว่ามันเซนซิทีฟ และไม่มีใครเข้าใจเราทั้งหมด และบางทีข้อความที่จะสื่อออกไปใน หนึ่งคำ มันอาจจะตีความหมายได้ เป็นสิบ เป็นยี่สิบ เป็นร้อย เป็นพัน เหมือนที่มันเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่ามันจะออกมาหน้าไหน ณ วันนี้ ผมขอโทษ แล้วก็ ผมไม่ได้ตั้งใจ และคงไม่เกิดขึ้นอีกแล้วครับ ณ วันนี้ ผมตัดสินใจแล้ว เราจะไม่วิจารณ์อะไรกับใคร ใดๆ ทั้งสิ้นครับ คือ อาจจะเป็นบทเรียนที่เราเพิ่งแก้ไข ผมเองก็อยู่วงการมานาน ตัวเองก็ระวังในทุกฝีก้าว แต่ว่าคงจะระวังไม่พอ ครั้งนี้ก็คงจะเข้าใจในทุกอย่างแล้วครับ แล้วก็ จะทำอะไรก็ทำกับตัวเองนี่แหละครับ ไม่เข้าไปก้าวก่ายในส่วนของใครแล้วทั้งสิ้น 

"ผมขอโทษ แล้วก็ ผมไม่ได้ตั้งใจ และคงไม่เกิดขึ้นอีกแล้วครับ"

ผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง เรียกเข้าไปคุยไหม

หลักๆ แล้วคนที่อยู่ในวงการ พี่ๆ รอบตัวเข้าใจในเจตนาของผม ที่จริงบางคน ก็ไม่มีอะไรให้กำลังใจนะครับ เขารู้เจตนามากกว่า ส่วนตัวผมเองไม่มีเจตนาก้าวล่วง ไปพูดเสียดสี หรือว่าไปให้ร้ายรายการ หรือว่าผู้ใหญ่ในรายการทั้งสิ้นนะครับ เพราะว่าผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ผมติดตามผลงาน และเคารพนะครับ

"ตอนที่ผมทวิต ผมไม่คิดว่าจะกระทบถึงผู้ใหญ่สักคนเลยจริงๆ ด้วยความที่ผมอาจจะคิดน้อยไป ขอโทษจริงๆครับ"

จะห่างการเล่นโซเชียลเลยไหม?

ไม่นะครับ คงใช้ชีวิตตามปกติ สิ่งที่ผมโพสต์ไป ผมบอกตรงนี้นะครับ ผมคงไม่ได้ลบหรืออะไรทั้งสิ้น เพราะ ผมรู้สึกว่า ผมทิ้งไว้ให้เป็นบทเรียนของตัวเอง 


ภาพจาก อินสตาแกรม punjanprama

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :