วันที่ 14 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่ ‘ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา’ โพสต์ลาออกจากการเป็นรองโฆษก และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ตนยังไม่เห็นหนังสือลาออก แต่แปลกใจในสิ่งที่เขาพูด ว่า “พรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศได้ ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยนระบบภายใน เป็นฝ่ายอนุรักษ์ โดยไม่ปฏิรูปตัวเอง“
โดยนั่นเป็นสิ่งที่ตนเป็นคนพูดเองว่า พรรคไม่ใช่แบบนั้น และจะต้องเดินแนวทางแบบไหน ซึ่งในวันนั้นเขาก็นั่งฟังอยู่ในห้องด้วย
พีระพันธุ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนจึงได้พูดคุยกับเลขาธิการพรรคแล้ว และได้ความว่า จากการพูดคุยกันเมื่อวานนี้ไม่ได้มีอะไร จึงแปลกใจสิ่งที่สื่อสารออกไปว่ามาจากไหน แต่ตนย้ำเสมอว่า เวลานี้ประชาชนเบื่อการเมืองแบบเดิม การเมืองที่มีแต่การเมือง เพราะคนต้องการนักการเมืองที่ทำงาน และการจะเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติได้ก็ต้องทำงานเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นผู้สมัคร หรือ สส. ของพรรคจะทำงานในสภาฯ อย่างเดียวไม่ได้ ต้องลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของประชาชน และนำมาหารือว่าจะแก้ไขอย่างไร อีกทั้งแต่ละคนก็จะต้องหาตนเองให้เจอว่าชอบหรือสนใจเรื่องใด พร้อมจับงานตรงนั้นทำขึ้นมาให้เป็นรูปเป็นร่าง ไม่ใช่มีแต่เรื่องสภาฯ และการเมือง
ดังนั้นการจะเดินหน้าต่อไป และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ พรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งตนเป็นคนพูดเองทั้งหมดนี้ในห้องประชุมพรรค เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ทราบว่าเขาลาออกเพราะเหตุใด หรือ มีเหตุผลอื่นหรือไม่
นอกจากนี้ พีระพันธ์ุ ยังย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นอนุรักษ์นิยมก้าวหน้า อะไรที่จำเป็นต้องปรับก็ปรับ ส่วนอะไรที่เป็นสถาบันหลักของประเทศต้องคงอยู่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะเราต้องเก็บสิ่งที่ดี รักษาสิ่งที่เป็นเหมือนประเทศไทย ดังนั้นอะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ประเทศเดินหน้า แล้วประชาชนมีความสุขก็ต้องปรับเปลี่ยน ส่วนกฎเกณฑ์ กติกาอะไรที่ใช้ไม่ได้ก็ต้องรื้อทิ้ง