วันที่ 19 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงสถานการณ์ในห้องประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7ต่อ 2 เสียง สั่งให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ทำให้ กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ได้ลุกขึ้นขอให้ประธานในที่ประชุมพิจารณา คำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ของ พิธา แต่ วิโรจน์ ลักขณาดิสรณ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นประท้วง ขอให้รอคำสั่งทางราชการที่ชัดเจนก่อน.
"อย่าเพิ่งรีบกระเหี้ยนกระหือรือจะเข้าวัดที่ จ.พิจิตร ขนาดนั้นก็ได้ เพราะถึงท่านอยากเข้า ท่านก็เข้าไม่ได้" วิโรจน์ กล่าว
กิตติศักดิ์ ได้อ้างสิทธิอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ และเกิดการโต้เถียงกับ วิโรจน์ จน พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ประธานการประชุมขณะนั้น ต้องปิดไมโครโฟนของทั้งคู่ เพื่อไม่ให้โต้เถียงกัน ก่อนจะให้สมาชิกอภิปรายกันต่อ ในประเด็นขอเปิดการลงมติตามมาตรา 151 ว่าเห็นชอบกับการเสนอญัตติซ้ำได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม กิตติศักดิ์ ได้เก็บของใช้ส่วนตัว และออกจากห้องประชุมทันที
ขณะที่ พิธา ยังมีสีหน้าเป็นปกติและบางช่วงได้พูดคุยกับ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล และได้ลุกออกจากห้องประชุมชั่วครู่หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ก่อนจะเดินกลับมานั่งรวมกับ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในห้องประชุมอีกครั้งเวลา 12.25 น.
ส่วน ส.ส.ของพรรคก้าวไกลคนอื่นๆ มีสีหน้าเคร่งเครียด โดยเฉพาะ ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล