ดังนั้นการวาง ‘ขุนพล’ ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ทั้งหมด 3 ครั้ง ในการ ‘กระชับอำนาจ’ ทั้งโผโยกย้าย ‘นายพล-ผู้การ-ผู้พัน’
เริ่มจากโผโยกย้าย ‘นายพล’ ที่สร้างความฮือฮาอย่างมาก โดยเฉพาะเก้าอี้ ‘แม่ทัพภาคที่ 1’ หลัง ‘บิ๊กปู’พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) ฟาสต์แทร็กขึ้นมาจากรอง มทภ.1 ไม่ได้เป็น ‘แม่ทัพน้อยที่ 1’ มาก่อน ซึ่ง พล.ต.พนา เพิ่งผ่านการฝึกหลักสูตร ‘ทหารคอแดง-หลักสูตรราชสวัสดิ์’ ระยะเวลา 3 เดือนมาด้วย เพราะตำแหน่ง มทภ.1 จะต้องเป็น เสนาธิการ ฉก.ทม.รอ.904 ด้วย
(พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26))
หากย้อนภูมิหลัง พล.ท.พนา โตมาจาก ร.31 รอ. เหมือนกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จนขึ้นเป็นผู้การ ร.31 รอ. ก่อนโยกมาเป็น เสธ.พล.1 รอ. จากนั้นไปโตที่ พล.ร.11 จนขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.11 หรือ ‘กองพลสไตรเกอร์’ ที่ตั้งขึ้นยุค ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ขณะเป็น ผบ.ทบ. จากนั้น พล.ต.พนา ก็เข้ากรุงอีกครั้ง มาเป็น รอง มทภ.1 และขึ้นเป็น มทภ.1 นั่นเอง ทำให้ พล.ท.พนา ถูกจับตาเตรียมขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ในอนาคต ก่อนจะถึงยุค ตท.28 ยึด ทบ. ด้วย
เพราะในขณะนี้ ตท.28 คุมขุม ‘กำลังรบหลัก ทบ.’ ไว้หมด
ทั้ง ‘บิ๊กกอล์ฟ’ พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. จาก ‘ทหารคอเขียว’ มาเป็น ‘ทหารคอแดง’ โดย พล.ต.สราวุธ โตมาจาก พล.1 รอ. ก่อนข้ามไปโตที่ พล.ร.9 ซึ่ง พล.ต.สราวุธ ไม่เคยโตจาก พล.ร.2 รอ. มาก่อน
(พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.ร.2 รอ.)
‘บิ๊กแอ้ม’พล.ต.ณัฐเดช จันทรางศุ ผบ.พล.1 รอ. โดย พ.อ.ณัฐเดช โตมาจาก ร.11 รอ. เหมือนกับ พล.อ.อภิรัชต์ อดีต ผบ.ทบ.
‘บิ๊กมด’พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร ผบ.พล.ม.2 รอ. สนามเป้า ทหารม้าคอแดง หนึ่งในแกนนำ ตท.28 และ ‘บิ๊กต๊อบ’พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผบ.พล.ร.9 ที่เติบโตจาก พล.ร.9 มาแต่ต้น
(พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผบ.พล.ร.9 )
(พล.ต.อาจิณ ปัทมจิตร ผบ.พล.ม.2 รอ.)
(พล.ต.ณัฐเดช จันทรางศุ ผบ.พล.1 รอ.)
นอกจากนี้ ตท.28 ยังมี ‘บิ๊กไก่’พล.ต.วรยศ เหลืองรุ่งเรือง รองแม่ทัพภาคที่ 1 อดีต ผบ.พล.1 รอ. แต่ พล.ต.วรยศ เติบโตมาจาก พล.ร.2 รอ. ถิ่นบูรพาพยัคฆ์ ก่อนโยกเข้า พล.1 รอ.
สำหรับ ตท.28 ได้ชื่อว่ามี ‘แบ็คอัพ’ สุดแกร่ง ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพเก้าอี้ ผบ.ทบ. ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวปลด ผบ.ทบ. โดยโยก พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ก่อนเกษียณฯ 1 ปี ด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ที่มี ‘ระยะห่าง’ ต่อกัน ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียง ‘สงครามตัวแทน’ เท่านั้น
นอกจากนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้จัดโผ ‘ผู้การกรม - รองนายพล’ ปรับทัพกระชับอำนาจ โดยเฉพาะ ร.31 รอ. RDF หน่วยเดิมของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ , หน่วยบูรพาพยัคฆ์ พล.ร.2 รอ. ฐานอำนาจขั้ว 3ป. , ทหารเสือราชินี ร.21 รอ. และ กรมรบพิเศษที่ 3 รอ. ที่ได้ชื่อว่าเป็นหน่วย ‘มือพระกาฬ’
เริ่มจากหน่วยเก่าของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ร.31 รอ. พบว่า ‘ผู้การด้วง’พ.อ.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ ผบ.ร.31 รอ. เข้ากรุงเทพฯ ขึ้นเป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. แล้วโยก ‘เสธ.ย้ง’ พ.อ.คทาวุธ ชัยย้ง เสธ.พล.1 รอ. ไปเป็น ผบ.ร.31 รอ. แทน
มากันที่ Home of Tiger ถิ่นทหารเสือฯ หน่วยเก่าของ พล.อ.ประยุทธ์ พบว่า ‘ผู้การเบญ’ พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.ร.21 รอ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. ถิ่นบูรพาพยัคฆ์ แล้วให้ พ.อ.ไชยปราการ พิมพ์จินดา เสธ.พล.ร.2 รอ. มาเป็น ผบ.ร.21 รอ. แทน นอกจากนี้ พ.อ.เทพพิทักษ์ นิมิตร ผบ.ร.2 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. ส่วน พ.อ.โกวิท สังขนครา รอง ผบ.ร.2 รอ. เป็น ผบ.ร.2 รอ.
ที่น่าสนใจ คือ กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ หน่วย ‘รบพิเศษคอแดง’ ชื่อของ ‘ผู้การเอิร์ธ’ พ.อ.อินทนนท์ รัตนกาฬ ผบ.รพศ.3 รอ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.พล.รบพิเศษที่ 1 , พ.อ.ปิยศักดิ์ สายธนู รอง ผบ.รบพิเศษที่ 3 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.รบพิเศษที่ 3 รอ. แทน.
ล่าสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จัดโผโยกย้าย ระดับ ‘ผู้พัน’ ยศพันเอก-พันโท เป็นที่น่าสนใจว่า พล.1 รอ. ที่ขึ้นตรง ฉก.ทม.รอ.904 มีการย้ายสลับหน่วย-ย้ายระนาบกับ ร.31 รอ. หน่วยเดิมของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เช่น พ.ท.รณตร โฉมวีรภัฏ ผบ.ร.31 พัน.2 รอ. ย้ายระนาบมาเป็น หัวหน้าฝ่ายกำลังพล พล.1 รอ. , พ.ท.ประวิทย์ ตาลสุข รอง เสธ.ร.31 รอ. มาเป็น ผบ.ร.31 พัน.2 รอ.
นอกจากนี้ พ.ท.พงษ์สัณห์ ดำนิล นายทหารฝ่ายยุทธการ ร.31 รอ. มาเป็น รองรอง เสธ.ร.31 รอ. , พ.ท.ณฐปพนธ์ ลี้อิศรามาศ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายกำลังพล พล.1 รอ. มาเป็น นายทหารฝ่ายยุทธการ ร.31 รอ.
พ.อ.มลชัย ยิ้มอยู่ เสธ.ร.31 รอ. เป็นรอง ผบ.ร.31 รอ. , พ.อ. สมชัย กมล หัวหน้าฝ่ายยุทธการ พล.1 รอ. มาเป็น เสธ.ร.31 รอ. , พ.ท.รัชชพงษ์ รัตนบัญญัติ ผบ.ร.31 พัน.1 รอ มาเป็น หัวหน้าฝ่ายยุทธการ พล.1 รอ. , พ.ท. พงศกร เสืองาม นายทหารฝ้ายธุรการและกำลังพล ร.31 รอ. เป็น ผบ.ร.31 พัน.1 รอ.
มากันที่ทหาร 'บูรพาพยัคฆ์-ทหารเสือฯ' พบว่า พ.อ.ณัฐภัทร หาทอง รองผบ.ร 21 รอ. ไปเป็น รองผบ.ร.2 รอ. แล้วให้ พ.อ.ณัฐวุฒิ สมพรหม เสธ.ร.21 รอ. ขยับขึ้นเป็น รอง ผบ.ร.21 รอ. , พ.อ.สุดแดน ศรีดามา หัวหน้าฝ่ายยุทธการ พล.ร.2 รอ. เป็นเสนาธิการ ร.21 รอ. , พ.ท.เมธี คำเต็ม ผบ.ร.21 พัน.2 รอ. เป็น หัวหน้าฝ่ายยุทธการ พล.ร.2 รอ. และ พ.ท.กฤษรินทร์ ดวงอุไร รองเสธ.ร.21 รอ. เป็น ผบ.ร.21 พัน.2 รอ.
พ.ท.วรพันธ์ ทรัพย์ยั่งยืนกุล ผบ.ร.2 พัน.3 รอ. เป็น ผบ.ร.12 พัน.3 รอ. , พ.ท.ภูมินรินทร์ สุขเสพ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน พล.ร.2 รอ. มาเป็น ผบ.ร.2 พัน.3 รอ.
มากันที่หน่วย ‘รบพิเศษ’ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) พบว่า พ.อ.ชาคริต เจริญบุญ ผบ.กองพันปฎิบัติการพิเศษ รักษาพระองค์ ขยับเป็นเสนาธิการ กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ แล้วให้ พ.อ.พงษ์พัฒน์ ธรรมโส หัวหน้าโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ มาเป็น ผบ.กองพันปฎิบัติการพิเศษ รักษาพระองค์ แทน พ.ท.ธวัชชัย นาคะเสงี่ยม หัวหน้าฝ่ายข่าวกองพลรบพิเศษ 1 เป็น ผู้บังคับกองพันรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 2 และ พ.ท.สุริยะ สัมพันธรัตน์ ผู้ช่วยฝ่ายยุทธการ นสศ. เป็น ผู้บังคับกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 2
ทั้งหมดนี้เป็น ‘สูตรบันได 3 ขั้น’ ในการ ‘กระชับอำนาจ’ ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ในการจัดการ ‘ขุมกำลังคอแดง’ และการผงาดของ ตท.28 ใน ทบ.
การ ‘วัดพลัง’ ย่อมเกิดขึ้นในอนาคต ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองช่วง ‘เปลี่ยนผ่าน’ ที่จะมีการเลือกตั้งปี 2566 และห่วงเปลี่ยนผ่านระบอบ ‘3ป.’ ครั้งสำคัญในรอบ 8 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง