นายชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า บขส. ได้ดำเนินการพัฒนาแผนธุรกิจรับ - ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพของสถานีเดินรถส่วนภูมิภาค รองรับความต้องการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นของประชาชนให้ได้รับความสะดวกในการใช้บริการ และสร้างรายได้ให้กับ บขส. ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ปัจจุบัน บขส. มีศูนย์รับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ในภูมิภาค 16 แห่ง ได้แก่
1) ศูนย์รับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร)
2) ศูนย์ฯ สายใต้ (บรมราชชนนี)
3) ศูนย์ฯ รังสิต
4) ศูนย์ฯ จังหวัดเชียงราย
5) ศูนย์ฯ จังหวัดเชียงใหม่
6) ศูนย์ฯ จังหวัดนครพนม
7) ศูนย์ฯ จังหวัดหนองคาย
8) ศูนย์ฯ จังหวัดมุกดาหาร
9) ศูนย์ฯ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
10) ศูนย์ฯ จังหวัดภูเก็ต
11) ศูนย์ฯ จังหวัดเพชรบุรี
12) ศูนย์ฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
13) ศูนย์ฯ จังหวัดปัตตานี
14) ศูนย์ฯ จังหวัดนครสวรรค์
15) ศูนย์ฯ จังหวัดสกลนคร
16) ศูนย์ฯ จังหวัดนครราชสีมา
และสามารถใช้บริการรับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ที่สถานีเดินรถ บขส. อีก 93 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ บขส. ให้บริการรถพัสดุภัณฑ์ 6 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กรุงเทพฯ - แม่สาย กรุงเทพฯ - หนองคาย กรุงเทพฯ - นครพนม กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ - หาดใหญ่
โดยจากผลการดำเนินงาน พบว่า มีประชาชนใช้บริการรับ - ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และใช้บริการขนส่งสินค้าทุกประเภท โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อส่งให้ผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ต่างจังหวัด และขนม เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อยกระดับการให้บริการจัดส่งพัสดุทั่วไทย บขส. เตรียมประสานความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดให้บริการ "Hub to Door" โดย บขส. จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมและขนส่งพัสดุขนาดใหญ่ จากสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศไปยังศูนย์ไปรษณีย์ปลายทาง ก่อนที่ไปรษณีย์ไทยจะดำเนินการจัดส่งพัสดุถึงมือผู้รับทั่วประเทศ ความร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและประชาชนในการขนส่งพัสดุได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้นสำหรับอัตราค่าบริการรับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ เช่น
- ขนาดเล็กสุด กล่อง A ไม่เกิน 50 เซนติเมตร (ซม.) น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม (กก.) ค่าบริการเริ่มต้นที่ 30 บาท
- ส่วนการขนส่งรถจักรยานยนต์ คิดราคาตามขนาดเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์ไม่เกิน 110 ซีซี ค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,300 บาท
- ขณะที่รถจักรยานทุกชนิด คิดตามขนาด เช่น ขนาดเล็กสุด ไม่เกิน 14 นิ้ว ค่าบริการเริ่มต้นที่ 200 บาท
ส่วนเงื่อนไขการให้บริการรับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ เช่น พัสดุต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 50 กก. ไม่รับฝากวัตถุอันตราย วัตถุไวไฟทุกชนิด สิ่งของผิดกฎหมาย สารเสพติด และมีประกันความเสียหายตามมูลค่าของที่ฝากส่งแต่ไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้ ศูนย์ฯ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30 - 20.00 น. ผู้ใช้บริการสามารถติดตามตรวจสอบสถานะพัสดุภัณฑ์ได้ตามขั้นตอน ดังนี้
1) เข้าเว็บไซต์ บขส. www.transport.co.th
2) เลือก บขส. บริการ ตรวจสอบสถานะพัสดุภัณฑ์ จะปรากฏหน้าจอ ระบบติดตามพัสดุ ให้กรอกรายละเอียด เลขที่ ใบเสร็จรับเงิน (เฉพาะตัวเลขและขีดขั้นกลาง (-) และรหัสอ้างอิง จากนั้นจะปรากฏหน้าจอ แถบแสดงสถานะพัสดุ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ฯ จตุจักร โทร. 0 2537 8480 ศูนย์ฯ รังสิต โทร. 0 2901 2673 และศูนย์ฯ สายใต้ (บรมราชชนนี) โทร. 0 2422 4413