ไม่พบผลการค้นหา
'กอบศักดิ์ ภูตระกูล' เสนอนโยบายลดภาษีบุคคลลดลงจากเดิมร้อยละ 10 ในทุกระดับรายได้ เชื่อประชาชนมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น พร้อมเสนอฐานภาษีจากสนับสนุนให้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเป็น 5 ล้านราย เปิดทางให้ค้าออนไลน์ไม่ต้องจ่ายภาษี 2 ปีแรก คนเพิ่งเรียนจบเพิ่งทำงานยกเว้นภาษี 5 ปีแรก มั่นใจกวาด ส.ส. ไม่ต่ำ 150 คน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า กล่าวว่าช่วงนี้พี่น้องประชาชนกำลังอยู่ในช่วงการยื่นแบบจ่ายภาษี ผ่าน ภงด.90 ภงด.91 ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐได้เสนอ ให้มีการลดภาษีบุคคลธรรมดาลงทุกระดับขั้น ร้อยละ 10 เช่น จากที่เคยจ่ายสูงสุด ร้อยละ 30 ก็จะเหลือร้อยละ 20 ใครจ่ายสูงสุดร้อยละ 20 ก็จ่ายร้อยละ 10 โดยมีอัตราขั้นต่ำที่ร้อยละ 5 และผู้ที่มีรายได้สุทธิต่ำกว่า 1.5 แสนบาทลงมา ไม่ต้องจ่ายภาษี เชื่อว่าประชาชนจะดีใจ มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น

โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ในนโยบายนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงภาษีบุคคลธรรมดาครั้งใหญ่ ซึ่งเราไม่ได้ทำเรื่องนี้มานานแล้ว โดนใจคนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือน รวมถึงคนที่เริ่มทำงานใหม่ จะส่งผลให้คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน ก็ไม่ต้องจ่ายภาษี

โดยในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลเก็บรายได้ในส่วนนี้ประมาณปีละ 3-4แสนล้านบาท โดยทางพรรคพลังประชารัฐจะเสนอให้มีการ ขยายฐานภาษีโดยการสร้างผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี (SMEs) ทั้งประเทศจาก 3 ล้านราย ให้เป็น 5 ล้านราย ซึ่งจะช่วยขยายฐานภาษีและปฎิรูปโครงสร้างภาษีทั้งระบบให้เกิดประสิทธิภาพ ลดช่องโหว่ สะท้อนโครงสร้างเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อมาชดเชย รายได้ที่หายไป

นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พรรคยังเสนอให้ในส่วนของพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นอาชีพของคนรุ่นใหม่ ได้รับการยกเว้นภาษีในช่วง 2 ปีแรกที่เริ่มประกอบกิจการ ซึ่งจะช่วยให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์เหล่านี้ สามารถตั้งตัวได้ โดยไม่มีภาระภาษีเข้ามาในช่วงเริ่มต้น

ส่วนผู้ที่เพิ่งจบการศึกษา เริ่มทำงาน พรรคเสนอให้ได้รับการยกเว้นภาษี 5 ปีแรกนับจากวันเริ่มทำงาน ตรงนี้จะทำให้น้องๆ สามารถเริ่มต้นชีวิตได้ โดยมีเงินในกระเป๋ามาขึ้นในการผ่อนรถ ผ่อนบ้าน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในครอบครัว

ตั้งแต่เดือน มี.ค. 'ประยุทธ์' ปราศรัยให้พรรคได้ ยิ่งทำให้รู้สึกฮึกเหิม

สำหรับการหาเสียงของพรรคในช่วงโค้งสุดท้าย นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ มีความฮึกเหิม จากการลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ตามแผน "30 วัน คาราวานสร้างชาติกับพลังประชารัฐ" ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชน ที่เข้ามาร่วมในการฟังปราศรัยอย่างล้นหลาม โดย เราได้ไป ที่จ.ชัยนาท จ.นครราชสีมา จ.สุรินทร์ จ.อุบลราชธานี และต่อไปจะเวียนไปตามภาคอื่นๆ

โดยประชาชนให้การตอบรับที่ดี กับ 3 ประเด็นคือ 1.การเสนอชื่อ “ลุงตู่” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค 2.นโยบายที่โดนใช้ อาทิ การขยายผลบัตรประชารัฐ ส.ป.ก.4.0 การแก้ไขปัญหา ภบท.5  การเพิ่มการอุดหนุนชาวนา เป็น 20ไร่ๆละ2,000 บาท นโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา ร้อยละ 10 ทุกขั้น เป็นต้น และ3.ผู้สมัครของพรรค ที่ “เข้าถึง พึ่งได้” ซึ่งมีทั้งอดีต ส.ส. และคนรุ่นใหม่ 

นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผู้บริหารพรรคพอใจในความก้าวหน้า จากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วเราเป็นพรรคการเมืองใหม่ มีคนรู้จักน้อยกว่า ร้อยละ 5 และมีคนเลือกไม่มากนัก ในปัจจุบันหลังจากได้ลงพื้นที่ทุกๆ เขตและทุกๆวัน หานโยบายที่ดีๆ ที่โดนใจ เสียงตอบรับได้ทำให้ โพล บางโพล เช่น รังสิตโพล ที่ผลสำรวจออกมาพรรคพลังประชารัฐได้เป็นลำดับ 1 ตรงนี้เป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คน แต่ว่า เราจะทำงานให้มากกว่านี้ และจะไม่ชนะเพียงแค่ช่วงจมูกเท่านั้น 

โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ในเดือนมี.ค.นี้ โชคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ตอบกลับมาที่พรรคว่า “ลุงตู่” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐสามารถลงพื้นที่และให้กำลังใจผู้สมัครส.ส.ของพรรคได้ ซึ่งทำให้ทุกคนมีกำลังใจและฮึกเหิมขึ้นอีก และมาในช่วงโค้งสำคัญ ซึ่งน่าจะทำให้คนที่ชื่นชอบผลงานของ “ลุงตู่”ให้การสนับสนุนผู้สมัครส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐยิ่งขึ้น  

“พรรคมั่นใจว่าน่าได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150 คน เพราะในช่วงที่ผ่านมา แค่คนที่รัก “ลุงตู่” ในทุกโพล ก็มีไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 26-30 ซึ่งถ้าทางพรรค สามารถเปลี่ยนความรักที่ประชาชนมีให้กับ “ลุงตู่” เป็นคะแนนเสียงได้และรวมกับคนที่ชอบนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ชอบผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ ก็เชื่อว่าเราจะได้ส.ส.ตามเป้าอย่างแน่นอน” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว