ไม่พบผลการค้นหา
ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่งนายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจด้านกฎหมาย มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาให้ความเห็น และข้อเสนอแนะในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 18/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจด้านกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายมีความเป็น เอกภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์และเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจด้านกฎหมาย

โดยมีองค์ประกอบ และหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ องค์ประกอบ

          1. ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน

          2. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นรองประธาน

          3. ผู้แทนกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ

          4. ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ เป็นกรรมการ

          5. ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการ

          6. ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข เป็นกรรมการ

          7. ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ

          8. ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นกรรมการ

          9. ผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นกรรมการ

          10. ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นกรรมการ

          11. ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ

          12. อธิบดีกรมบังคับคดี เป็นกรรมการ

          13. ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม เป็นกรรมการ

          14. เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม

          และ 15. เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม

สำหรับหน้าที่และอำนาจ 

1.พิจารณาให้ความเห็นและข้อเสนอแนะในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อนายกรัฐมนตรีหรือตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มอบหมาย  

2.พิจารณาให้คำปรึกษาและความเห็นทางกฎหมายแก่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค หรือข้อขัดข้องในกำรปฏิบัติงาน และเสนอแนะวิธีการหรือมาตรการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคดังกล่าว เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

3.ตรวจสอบ เร่งรัด ติดตาม และประสานงานคดีที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19)

4. ศึกษาและจัดทำข้อเสนอทำงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดำเนินการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

5.ประสานการดำเนินการกับส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเชิญผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความเห็นหรือส่งเอกสารหลักฐานใดๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา

6.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

7. ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะกรรมการเฉพาะกิจด้านกฎหมายตามคำสั่งนี้เป็นที่ปรึกษาในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ในกำรปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548