ไม่พบผลการค้นหา
จีเอ็มชี้ บริษัทไม่ทำกำไรในไทย-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ปรับโครงสร้างด้วยการเน้นสหรัฐฯ-จีน แทน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม เตรียมถอนตัวจากตลาดประเทศนอกเหนือจากสหรัฐฯและจีน โดยจะยุติการขายและศูนย์บำรุงรักษาและออกแบบในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมถึงจะดำเนินการปิดตัว 'โฮลเดน' ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติออสเตรเลียภายในปี 2564 ด้วย

ขณะเดียวกัน จีเอ็มก็ยังออกมายอมรับว่าบริษัทเกรท วอล มอเตอร์ส ของจีน ได้ตกลงเข้าซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ในไทยแล้วเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2563

การปรับกลยุทธ์ครั้งนี้ เป็นไปด้วยแนวความคิดในการถอนตัวจากตลาดที่ไม่ก่อให้เกิดกำไรกับบริษัท และหันไปพึ่งตลาดที่ยังมีศักยภาพ เช่น สหรัฐฯ จีน ประเทศในแถบลาตินอเมริกา และเกาหลีใต้แทน

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา 'ดิยา เซอร์ยาเดวารา' ผู้อำนวยการด้านการเงินของจีเอ็มชี้ว่า การปรับโครงสร้างการดำเนินการนอกประเทศจีน ทำให้บริษัทเห็นอัตรากำไรในช่วงกลางๆ หลักหน่วย ซึ่งคิดเป็นเม็ดเงิน "ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ" เมื่อเทียบกับอัตรากำไรที่วัดจากราคาซื้อและราคาขายในปี 2561 

นอกจากนี้ 'แมรี บาร์รา' ประธานและซีอีโอจีเอ็ม ก็แถลงวิสัยทัศน์ของบริษัทว่า มุ่งเป้าไปที่ตลาดที่บริษัทมีกลยุทธ์ถูกต้องในการสร้างผลกำไรและเลือกการลงทุนที่จะสร้างขับเคลื่อนการเติบโตในการเคลื่อนที่แห่งอนาคตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

ทั้งนี้ บาร์รา ยังบอกว่าอาจจะมีการปรับตัวเคลื่อนย้ายในประเทศญี่ปุ่น รัสเซีย และประเทศในสหภาพยุโรปด้วยเนื่องจาก "เราไม่เห็นขนาดตลาดที่สำคัญจากตรงนั้น"

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนับตั้งแต่บาร์รา เข้ามานั่งเป็นซีอีโอในปี 2557 ที่จีเอ็มถอนตัวออกจากหลายประเทศ ในปี 2560 บริษัทตัดสินใจขายธุรกิจผลิตรถยนต์โอเปิลและวอกซ์ฮอลล์ให้กับเปอโยต์ พร้อมถอนตัวออกจากแอฟริกาใต้และตลาดอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา นอกจากนี้ จีเอ็ม ยังถอนตัวจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดียเช่นเดียวกัน 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่าย 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกระทบกับชีวิตคนงาน 1,500 ตำแหน่งในไทย และอีก 828 ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

อ้างอิง; Reuters, Time

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;